การให้ความรู้แก่ชุมชนด้านการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน จัดทำโครงการให้ความรู้/การเข้าถึงชุมชนเกี่ยวกับการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้มุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนผ่านการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้และโครงการที่สำคัญในหลายพื้นที่ โดยในปี 2566 ได้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ (อพ.สธ.–มสด.) ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการสนับสนุนการให้บริการฝึกอบรม งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และการจัดการฐานทรัพยากรท้องถิ่นให้กับหน่วยงานภาครัฐและชุมชนในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีและภาคกลาง (https://www.dusit.ac.th/home/2023/1190676.html) นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาโครงการเมืองต้นแบบเกษตรปลอดภัยอัจฉริยะผ่านการดำเนินงานของหอมขจรฟาร์ม อย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นการพัฒนาระบบการผลิตเกษตรปลอดภัยที่สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม พร้อมทั้งพัฒนาระบบการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค เพื่อสร้างความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานการเกษตร (ที่มา https://homkhajorn.dusit.ac.th/) การดำเนินงานที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เกษตรปลอดภัยและนันทนาการ ที่มุ่งพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรปลอดภัยสำหรับนักเรียน นักศึกษา และชุมชน โดยบูรณาการการเรียนรู้ด้านการเกษตรกับสุขภาวะของคนทุกช่วงวัย มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายทั้งการวิจัย นิทรรศการ การศึกษาดูงาน และการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตรโดยชุมชนมีส่วนร่วม (https://www.facebook.com/photo.php?fbid=840013718131773&set=pb.100063694561029.-2207520000&type=3&_rdc=1&_rdr) โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้แนวทางการพัฒนาศูนย์ฯ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน (ที่มา https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/2682/?bid=1) การดำเนินงานทั้งหมดนี้ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สำคัญ ทั้งการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่น การพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านการเกษตรที่ยั่งยืน ตลอดจนการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ด้านการเกษตรที่ครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งนำไปสู่การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โดยมหาวิทยาลัยมีแผนที่จะขยายเครือข่ายความร่วมมือให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางด้านทรัพยากรการเกษตรและสร้างมาตรฐานการถ่ายทอดความรู้สู่ชุมชนต่อไปในอนาคต

ในส่วนของภาคปฏิบัติการเชิงพื้นที่ มหาวิทยาลัยได้ดำเนินโครงการด้านการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนที่สำคัญหลายโครงการ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรและชุมชนผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการที่ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวอย่างเช่น การจัดอบรม “การปลูกผักแบบปลอดภัยด้วยระบบฟาร์มรักษ์น้ำ” ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 190 คน ทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์ โดยเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Smart IoT ในการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ (https://www.dusit.ac.th/home/2023/1092021.html)

นอกจากนี้ ยังได้ริเริ่มโครงการ “Coding for Better Life” สำหรับเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่มุ่งพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลเพื่อการจัดการฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) โดยบูรณาการเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์เข้ากับการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งช่วยยกระดับการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายเกษตรกรที่สามารถใช้เทคโนโลยีในการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน (ที่มา https://www.dusit.ac.th/home/2023/1178527.html  และ https://www.dusit.ac.th/home/2023/1180910.html)

อีกทั้งมหาวิทยาลัยยังได้จัดโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ภายใต้แนวคิด SMART AGRO-Restaurant ที่เน้นการใช้วัตถุดิบการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมแนวคิด Green Restaurant เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการแนวคิดการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่าของภาคการเกษตร (ที่มา https://www.dusit.ac.th/home/2023/1124357.html)

มหาวิทยาลัยได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนผ่านการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาระบบการปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับในระบบเกษตรปลอดภัยเพื่อการบริโภค” โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนา คณาจารย์จากโรงเรียนการเรือน และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย มีการดำเนินงานทั้งการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการและการลงพื้นที่สำรวจการเพาะปลูกของเกษตรกร พร้อมทั้งศึกษาการนำผลผลิตไปใช้ประโยชน์ในธุรกิจอาหารและโรงแรม สะท้อนให้เห็นถึงการบูรณาการองค์ความรู้ด้านการเกษตรปลอดภัยกับการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งเป็นต้นแบบของการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนที่ตอบสนองต่อบริบทและความต้องการของท้องถิ่น ที่มา https://www.dusit.ac.th/home/2023/1103045.html)

ผลการดำเนินงานดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในภาคการเกษตร ทั้งการสร้างเครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี การพัฒนาแอปพลิเคชันและระบบ Smart Farm และการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษากับภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาการจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต