การระบุและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับท้องถิ่น และการจัดตั้งกลไกการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการตัดสินใจของมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (Suan Dusit University: SDU) ดำเนินการบริหารงานโดยยึดหลัก ธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Engagement) ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อสร้างสถาบันการศึกษาที่เปิดกว้างและมีความรับผิดชอบต่อสังคม สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ SDG 16: Peace, Justice and Strong Institutions

นโยบายระดับสถาบัน: การระบุและสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Identify and Engage with Local Stakeholders)

ในปี พ.ศ. 2567 (2024) มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ประกาศ นโยบายการบริหารงานเพื่อขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยแห่งการเรียนรู้และความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Power of Community Engagement: Holistic Economy” โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ รักษาการแทนอธิการบดี
ซึ่งถือเป็นนโยบายระดับสถาบันที่วางรากฐานให้มหาวิทยาลัยสามารถระบุ (Identify) และสร้างการมีส่วนร่วม (Engage) กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกอย่างเป็นระบบ

A diagram of a business presentation

Description automatically generated with medium confidence

https://secretarygeneral.dusit.ac.th/main/wp-content/uploads/2024/05/2.-info-หน้าสรุปนโยบาย-290467.pdf

นโยบายนี้มุ่งหมายให้มหาวิทยาลัยเป็น “กลไกกลางในการขับเคลื่อนชุมชนท้องถิ่นและเศรษฐกิจฐานราก” โดยมีแนวทางการดำเนินงานหลัก 3 ประการ ได้แก่

  1. การขับเคลื่อนงานผ่านวิทยาเขตและศูนย์การศึกษาทั่วประเทศ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เช่น สุพรรณบุรี ลำปาง หัวหิน และตรัง
  2. การถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านหน่วยบริการวิชาการ เพื่อเปิดพื้นที่ให้หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม
  3. การพัฒนาและขยายผล “หอมขจรโมเดล (Hom Kha Jorn Model)” เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานราก โดยบูรณาการศาสตร์ด้านอาหาร การศึกษา และสิ่งแวดล้อมร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่น

นโยบายปี 2567 นี้เป็นการยืนยันถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยในการสร้างกลไก “Stakeholder Identification and Engagement Mechanism” ที่มีระบบและเป็นรูปธรรม

การทบทวนและต่อยอดนโยบายในปี พ.ศ. 2568 (2025)

ในปี พ.ศ. 2568 (2025) มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการ ทบทวนและพัฒนานโยบายดังกล่าว ภายใต้เอกสาร SDU GOAL 2568–2571 (SDU GOAL 2025–2028) ซึ่งได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568

A group of people in a meeting

Description automatically generated

A screen with a qr code

Description automatically generated

ในแผนยุทธศาสตร์ฉบับนี้ มหาวิทยาลัยได้ยกระดับ “Power of Community Engagement” ให้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักของสถาบัน โดยกำหนดเป้าหมายให้มหาวิทยาลัยเป็น “ศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้และการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน (Holistic Engagement Hub)” และสร้างกลไกการทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างชัดเจน ดังนี้

  • การจัดทำฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับพื้นที่ (Local Stakeholder Mapping):
    แต่ละศูนย์การศึกษาได้รับมอบหมายให้จัดเก็บข้อมูลและสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน
  • การสร้างการมีส่วนร่วมแบบเชิงรุก (Proactive Engagement):
    จัดตั้ง หน่วยบริการวิชาการกลาง (Central Community Service Unit) เพื่อประสานงานการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภายนอกทั่วประเทศ
  • การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือเชิงพื้นที่ (Integrated Area-Based Network):
    ขยายผล “โครงการหอมขจรโมเดล” และ “โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ” โดยร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชน
A group of people in a conference room

Description automatically generated

ตัวอย่างเชิงปฏิบัติ: การสร้างกลไกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (Participatory Bodies for Stakeholder Engagement)

เพื่อให้การดำเนินนโยบายดังกล่าวเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้จัด โครงการศึกษาวิจัยเพื่อปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการอบรมบุคลากรในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤษณพร ประสิทธิ์วิเศษ เป็นหัวหน้าโครงการ

A group of people in a room

Description automatically generated

กิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการคือ การประชุม “รับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง” (Focus Group Discussion)เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 ณ โรงแรมสวิสโซเทล รัชดา กรุงเทพฯ
โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ (กสทช.), ภาคเอกชน, วิทยุชุมชน, ภาคประชาสังคม และสถาบันอุดมศึกษา รวมกว่า 60 คน เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาหลักสูตรการอบรมบุคลากรด้านการสื่อสารมวลชนของประเทศ

A group of people sitting at a table

Description automatically generated

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตทำหน้าที่เป็น หน่วยงานกลางทางวิชาการ (Academic Secretariat) ที่รวบรวมข้อเสนอแนะและผลการประชุมเพื่อนำเสนอเป็นข้อมูลเชิงนโยบายต่อสำนักงาน กสทช. กระบวนการนี้สะท้อนให้เห็นถึง “เวทีการมีส่วนร่วมที่มีนัยสำคัญ (Meaningful Participation)” ที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากหลายภาคส่วนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในกระบวนการตัดสินใจเชิงนโยบายระดับชาติ

ความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ

ทั้งนโยบายปี 2567, การทบทวนใน SDU GOAL 2568–2571, และกิจกรรมการมีส่วนร่วมในปี 2567 ได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณะผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย (https://www.dusit.ac.th) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เว็บไซต์ของโรงเรียนกฎหมายและการเมือง และสำนักงาน กสทช. ซึ่งตอกย้ำถึงความโปร่งใสของมหาวิทยาลัยในการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล

การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567–2568 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการ ระบุ (Identify) และ สร้างการมีส่วนร่วม (Engage) กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกระดับ ผ่านทั้งนโยบาย กิจกรรม และกลไกการตัดสินใจร่วม โดยสอดคล้องกับเกณฑ์การประเมินของ SDG 16.2.3 และ 16.2.4 ครบถ้วนทั้ง 4 องค์ประกอบ ได้แก่

  • มีนโยบายชัดเจน (Existence of Policies)
  • มีหลักฐานการดำเนินงานจริง (Evidence Provided)
  • เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ (Publicly Available)
  • มีการทบทวนนโยบายในช่วงปี 2021–2025 (Policy Reviewed 2021–2025)

ดังนั้น มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจึงถือเป็นตัวอย่างของ สถาบันอุดมศึกษาที่ขับเคลื่อนธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน (University of Good Governance and Sustainable Engagement)
ที่เชื่อมโยงการทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างสถาบันที่เข้มแข็ง โปร่งใส และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ตามเป้าหมายของ SDG 16: Peace, Justice and Strong Institutions