มหาวิทยาลัยสวนดุสิต : พลังแห่งปัญญาเพื่อการพัฒนาเมืองและชุมชนอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตยืนหยัดบนรากฐานของ “มหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน (University for Community)” ที่เชื่อมั่นว่า การพัฒนาเมืองและชุมชนอย่างยั่งยืน ต้องเริ่มจากการบูรณาการความรู้และภูมิปัญญาที่มีอยู่ในพื้นที่ เข้ากับองค์ความรู้สมัยใหม่จากมหาวิทยาลัย เพื่อสร้าง “เมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน”

ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษ สวนดุสิตได้พัฒนาแนวคิดการทำงานเชิงพื้นที่ที่มุ่งสร้าง “หุ้นส่วนการพัฒนา (Development Partnership)” ระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานท้องถิ่น และชุมชนรอบข้าง เพื่อร่วมกันวางแผนและพัฒนาเมืองในมิติที่ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยอาศัยหลักการของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 11 (SDG 11: Sustainable Cities and Communities)

สวนดุสิตมิได้เป็นเพียงแหล่งผลิตบัณฑิตและงานวิจัย แต่ยังเป็น “ศูนย์กลางการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงของเมือง” ที่ใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญทางวิชาการมาร่วมออกแบบอนาคตของเมืองให้อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล มหาวิทยาลัยนำ ทุนทางวัฒนธรรม ทุนมนุษย์ และทุนวิทยาศาสตร์ ที่สั่งสมมากว่าศตวรรษ มาเชื่อมโยงกับความต้องการของท้องถิ่น เพื่อให้การพัฒนามีรากฐานบนอัตลักษณ์และความยั่งยืนของพื้นที่เอง

แนวทางนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของสวนดุสิตในการขับเคลื่อน “การพัฒนาเมืองอย่างมีส่วนร่วม” ที่เปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ได้ทำงานร่วมกันอย่างเท่าเทียม เพื่อให้เมืองและชุมชนเติบโตอย่างสมดุล มีคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี กับการเป็น “หุ้นส่วนเชิงนโยบายของท้องถิ่น”

ในปี 2567 วิทยาเขตสุพรรณบุรี ได้ขยายบทบาทของมหาวิทยาลัยสู่การเป็น “หุ้นส่วนเชิงนโยบายของท้องถิ่น” ผ่านการร่วมมือกับหน่วยงานระดับจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบลในการวางแผนและพัฒนาพื้นที่ ทั้งด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม การออกแบบพื้นที่สีเขียว การยกระดับอาชีพและเศรษฐกิจฐานราก ตลอดจนการสร้างเมืองที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อทุกคน

การมีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผนพัฒนาระดับจังหวัด และกลุ่มจังหวัด

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ได้เข้าร่วมเป็นภาคีสำคัญในการจัดทำและทบทวนแผนพัฒนาของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยผู้แทนจากวิทยาเขตสุพรรณบุรี นำโดย รองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตสุพรรณบุรี เข้าร่วม “การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 (ฉบับทบทวน พ.ศ. 2566–2570)” จัดโดยสำนักงานจังหวัดสุพรรณบุรี https://www.dusit.ac.th/home/2024/1267507.html

A group of people sitting at a table

AI-generated content may be incorrect.

ความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลและหน่วยงานท้องถิ่นโดยตรง

ในระดับพื้นที่ วิทยาเขตสุพรรณบุรี ได้ดำเนินความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมืองสุพรรณบุรี โดย ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาเขตสุพรรณบุรี เข้าร่วมการประชุม “พิจารณาร่างแผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ. 2566–2567) เพิ่มเติม ครั้งที่ 2/2568” ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลโคกโคเฒ่า

https://www.dusit.ac.th/home/2025/1531903.html
A person speaking to a group of people

AI-generated content may be incorrect.

การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับชุมชนท้องถิ่น

นอกเหนือจากการวางแผนด้านโครงสร้างพื้นฐาน มหาวิทยาลัยยังได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลโคกโคเฒ่า และ วัดโคกโคเฒ่า ดำเนินโครงการ “ตลาดชุมชนคนโคกโคเฒ่า” เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและการค้าชุมชนอย่างยั่งยืน โครงการดังกล่าวเกิดจากกระบวนการมีส่วนร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานท้องถิ่นใน การวางแผนพัฒนาและจัดการพื้นที่ชุมชน โดยมีเป้าหมายให้ตลาดแห่งนี้เป็นทั้งแหล่งจำหน่ายสินค้าชุมชน แหล่งเรียนรู้ของนักศึกษา และพื้นที่พักผ่อนของประชาชนในบริเวณรอบมหาวิทยาลัย ภายใต้แนวคิด “ชุมชนมีส่วนร่วม เมืองยั่งยืน เศรษฐกิจเติบโตบนรากฐานวัฒนธรรมท้องถิ่น”

มหาวิทยาลัยยังได้ให้คำปรึกษาเชิงวิชาการด้าน การจัดการพื้นที่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการออกแบบภูมิทัศน์ตลาดให้เอื้อต่อการใช้ชีวิตของคนในชุมชน เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กิจกรรมนี้ช่วยเพิ่มรายได้แก่ครัวเรือนในพื้นที่ ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหาร และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพ https://suphanburicampus.dusit.ac.th/new/2024/107706/

การเชื่อมโยงความร่วมมือระดับจังหวัดสู่ระดับประเทศ

นอกจากการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในระดับตำบลแล้ว มหาวิทยาลัยสวนดุสิตยังได้ขยายผลการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคีในจังหวัดสุพรรณบุรี ในระดับเชิงนโยบาย ผ่านโครงการ “สุพรรณบุรีโมเดล…เมืองต้นแบบอาหารปลอดภัยสู่ความยั่งยืน” ภายใต้ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร (Hub of Talents in Gastronomy Tourism) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต และได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) อีกทั้งยังได้จัดกิจกรรมเสวนาในงาน เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาเมืองอย่างเป็นระบบจากฐานความร่วมมือท้องถิ่น โดยมีทั้งนักวิชาการ ผู้แทนภาครัฐ และผู้แทนวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดสุพรรณบุรีร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อพัฒนาแผนยุทธศาสตร์การเป็น “เมืองอาหารปลอดภัย” ที่มีมาตรฐานและเข้าถึงได้ในระดับชุมชน

https://www.matichon.co.th/publicize/news_4774375
https://www.mediaofthailand.com/2024/09/blog-post_62.html
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1322603.html

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กับการขยายบทบาทสู่ความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่อื่น

นอกจากความร่วมมือในจังหวัดสุพรรณบุรี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (ศูนย์วิทยาศาสตร์ กรุงเทพฯ) ยังได้ขยายบทบาทด้านการวางแผนและการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง ผ่านสำนักงานบริการอาคารวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ ที่ได้ดำเนินงานเป็นคณะขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาเขตบางพลัด โดยในปี 2567 ได้มีการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสำนักงานเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร วัดทอง คณะขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาเขตบางพลัด และ บริษัท เวสบายเดริเวอร์รี่ จำกัด เพื่อการจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน

ความร่วมมือนี้ถือเป็นการทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นระดับเขตของกรุงเทพมหานคร ในการวางแผนและพัฒนาระบบสิ่งแวดล้อมเมืองอย่างบูรณาการ ทั้งด้านการลดปริมาณของเสีย การออกแบบระบบแยกขยะจากต้นทาง และการสร้างพื้นที่ต้นแบบในการจัดการขยะชุมชน ซึ่งช่วยให้ประชาชนในเขตบางพลัดมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย สะอาด และเอื้อต่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

สะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในฐานะ “หุ้นส่วนเชิงนโยบายของเมือง (Urban Policy Partner)” ที่นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมมาร่วมออกแบบการพัฒนาเมืองกับหน่วยงานท้องถิ่นโดยตรง ทั้งยังเป็นตัวอย่างของ การทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาด้านการวางแผนและการพัฒนาเมือง

https://www.dusit.ac.th/home/2024/1372122.html

จากกรณีศึกษาทั้งใน จังหวัดสุพรรณบุรี และกรุงเทพมหานคร สามารถสรุปบทบาทของมหาวิทยาลัย
สวนดุสิตต่อการพัฒนาเมืองยั่งยืนได้ ดังนี้

สรุปและผลลัพธ์เชิงนโยบาย

จากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ในปี 2567 ทั้งในระดับจังหวัดสุพรรณบุรีและพื้นที่กรุงเทพมหานคร สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่ชัดเจนของมหาวิทยาลัยในฐานะ “หุ้นส่วนเชิงนโยบายของท้องถิ่น (Local Development Partner)” ที่ร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นในทุกระดับ เพื่อร่วมกันวางแผนและพัฒนาเมืองให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและทิศทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ

มหาวิทยาลัยได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำทางวิชาการที่สามารถเชื่อมโยง องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เข้ากับการพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยดำเนินความร่วมมือกับทั้ง องค์การบริหารส่วนตำบล จังหวัด กรุงเทพมหานคร และองค์กรภาคี เพื่อขับเคลื่อนประเด็นสำคัญของการพัฒนาเมือง ได้แก่

– การวางแผนและบริหารจัดการพื้นที่เมืองและชุมชน

– การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและความมั่นคงทางอาหาร

– การจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสียอย่างยั่งยืน

– การสร้างพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน

การดำเนินงานเหล่านี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในฐานะ “มหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน (University for Community)” ที่ใช้พลังแห่งปัญญาและความร่วมมือขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองและชุมชนให้เติบโตอย่างมีสมดุล สอดคล้องกับหลักการของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 11 (SDG 11.4.7) คือ “การร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นในการวางแผนและพัฒนาเมือง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงพื้นที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง”