ในยุคที่การพัฒนาการศึกษาไม่เพียงแต่ขยายโอกาสเข้าถึง แต่ยังหมายถึง “การเข้าถึงอย่างเท่าเทียม” สำหรับผู้เรียนทุกกลุ่ม มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (SDU) ตระหนักดีว่า “ความเท่าเทียมทางการศึกษา” ต้องประกอบด้วยทั้งโอกาสและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม โดยเฉพาะสำหรับผู้พิการที่อาจเผชิญอุปสรรคหลายด้านทั้งทางกายภาพ การเรียนรู้ และสังคม เนื่องจากนั้น SDU ได้จัดตั้ง Disability Support Services (DSS) ขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2024 เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการสามารถเรียน อยู่ และเติบโตได้ในระบบอุดมศึกษา
สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
เพื่อให้ผู้พิการ “ไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” ทาง SDU ได้ปรับโครงสร้างพื้นฐานของวิทยาเขตอย่างเห็นได้ชัด เช่น ทางลาด ลิฟต์ ห้องน้ำอเนกประสงค์สำหรับผู้ใช้รถเข็น ทางเดินสัญจรพร้อมสัญลักษณ์บอกทาง และจุดบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความพิการ ณ วิทยาเขตสุพรรณบุรี ซึ่งถือเป็นฐานการพัฒนาเต็มรูปแบบของโครงการนี้ในปี 2024 (ดู ลิงก์ข่าว) สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า SDU ไม่เพียงพูดถึง “โอกาส” แต่ลงมือสร้าง “สิ่งอำนวยความสะดวก” ที่จับต้องได้
บริการ DSS เชิงรุกและการติดตามผล
บริการ DSS ของ SDU ไม่ได้รอให้ผู้พิการมาขอความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว แต่มีระบบรับคำขอ ประเมินความต้องการเฉพาะบุคคล (Individual Support Plan) และติดตามผลเป็นภาคการศึกษาทุกครั้ง เพื่อให้ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกทันเวลา เช่น ซอฟต์แวร์อ่านข้อความ โต๊ะเรียนเฉพาะหรือเครื่องช่วยฟัง ซึ่งมีการประสานงานระหว่างสำนักส่งเสริมวิชาการ กองพัฒนานักศึกษา และอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ (ข่าวเผยแพร่สาธารณะ). https://tcas.dusit.ac.th/4210/
การเรียนการสอนแบบครอบคลุม (Inclusive Pedagogy)
นอกเหนือจากโครงสร้าง DSS ยังครอบคลุมด้าน pedagogy อย่างจริงจัง อาจารย์ได้รับการอบรมให้ปรับรูปแบบการสอนและการประเมินผล เช่น จัดเอกสารสื่อการสอนดิจิทัล ให้เวลาสอบเพิ่มเติม จัดผู้ล่ามภาษา หรือจัดอุปกรณ์ช่วยเข้าถึงการเรียนสำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็น/ได้ยิน ทั้งนี้ยังเชื่อมโยงกับหลักสูตรฝึกอาชีพสำหรับผู้พิการหลายประเภท โดยมีเป้าหมายเพื่อ “เรียนจบแล้วไปได้งาน” ไม่ใช่เพียงเรียนจบแล้วจบ (อ้างอิง บ้านเมือง นิวส์)
การพัฒนาทักษะอาชีพและการมีส่วนร่วม
SDU ตระหนักว่า “การเรียน” คือ ขั้นตอน หนึ่ง แต่ “การมีงาน และการมีส่วนร่วมทางสังคม” คือ เป้าหมาย ใหญ่ โดยในปี 2024 ที่วิทยาเขตสุพรรณบุรีนั้น มีการเปิดหลักสูตรฝึกอาชีพผู้พิการ ประเภท เช่น การประดิษฐ์ดอกไม้แห้ง–ดอกไม้จันทน์ จำนวน 360 ชั่วโมง กับผู้พิการหลายประเภทกว่า 70 คน พร้อมต่อยอดเครือข่ายองค์กรท้องถิ่นและสถานประกอบการ เป้าหมายระดับประเทศคือ 300 คนภายใน พ.ศ. 2567 (ดู ลิงก์ข่าว) นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปศิลปะ คลินิกเตรียมความพร้อมการสัมภาษณ์งาน และกิจกรรมสร้างเครือข่ายกับชุมชน ซึ่งช่วยเพิ่มทักษะอ่อน และโอกาสทางสังคมให้ผู้พิการไม่ถูกแยกจากกระแสหลัก
ความโปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูล
ทั้งหมดนี้ SDU ทำให้สาธารณชนเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย โดยเผยแพร่ข่าวกิจกรรม นโยบาย และโครงการที่เกี่ยวข้องอย่างเปิดเผย (ดู ลิงก์ข่าว SDU) ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบสู่สาธารณะ ความโปร่งใส และการตรวจสอบได้
ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเข้าถึง การสอนแบบครอบคลุม บริการ DSS แบบ proactive และโปรแกรมพัฒนาทักษะ ผู้พิการที่เข้าศึกษาที่ SDU ได้รับ “โอกาสที่มีคุณค่า” และไม่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง SDU จึงแสดงบทบาทเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งความเสมอภาคทางการศึกษา” อย่างแท้จริงและสอดคล้องกับเป้าหมาย SDG 4 (การศึกษาอย่างมีคุณภาพ) และ SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ)