มหาวิทยาลัยสวนดุสิตกับบทบาท “พี่เลี้ยงทางการเงินและองค์ความรู้”
เพื่อยกระดับธุรกิจชุมชนอย่างยั่งยืน
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (Suan Dusit University – SDU) ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้าง เศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มหาวิทยาลัยตั้งวิทยาเขตและศูนย์การศึกษา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชนท้องถิ่น มหาวิทยาลัยจึงทำหน้าที่เป็นทั้ง “แหล่งทุน” และ “แหล่งองค์ความรู้” ที่คอยขับเคลื่อนและสนับสนุนให้ประชาชนสามารถ เริ่มต้นธุรกิจใหม่ (Start-up) หรือ ยกระดับกิจการเดิม ให้มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคมมากยิ่งขึ้น
มหาวิทยาลัยได้มุ่งมั่น จัดหางบประมาณอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการจัดสรรงบประมาณภายในหน่วยงานเอง และจากการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอกในระดับชาติ เพื่อใช้เป็น “ทุนต้นน้ำ” ในการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจของชุมชนท้องถิ่น ให้สามารถเติบโตได้จริงในเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน นวัตกรรมเกษตรปลอดภัย และการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรายใหม่ในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัย
บทบาทเชิงรุกของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในลักษณะนี้ จึงเปรียบเสมือน “พี่เลี้ยงทางการเงินและองค์ความรู้” ที่ไม่เพียงถ่ายทอดความรู้ แต่ยังลงมือสนับสนุนด้วยงบประมาณและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ชุมชนสามารถเปลี่ยนความรู้ให้เป็นอาชีพ และต่อยอดอาชีพให้เป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้จริง สำหรับโครงการในปี 2567 มีโครงการที่ดำเนินการดังนี้
โครงการที่ 1 “การยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนและการท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน จังหวัดสุพรรณบุรี” ดำเนินการโดย สำนักนวัตกรรมชุมชน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ได้รับงบประมาณสนับสนุน 1,800,000 บาท ภายใต้โครงการ Reinventing University ประจำปีงบประมาณ 2567 โครงการ “Reinventing University” ประจำปีงบประมาณ 2567 มี แหล่งงบประมาณ จากงบประมาณของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และมี หลักการสนับสนุน คือ การกำหนดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาตามจุดเน้นของแต่ละกลุ่มมหาวิทยาลัย เช่น การพัฒนาการวิจัยระดับแนวหน้า การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม และการพัฒนาบุคลากร


🔸 วัตถุประสงค์
เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนในด้านการผลิต การตลาด และการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นได้ด้วยตนเอง สร้างรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน


🔹 รูปแบบกิจกรรมหลัก
- การถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมแก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น
- จัดอบรม 13 หลักสูตร ครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ การตลาด และการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น
- “ผลิตภัณฑ์น้ำพริกปลาช่อนสมุนไพร”
- “การพัฒนาฉลากและบรรจุภัณฑ์โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรม”
- “การใช้แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน”
- มีผู้เข้าร่วมอบรมรวม 586 คน จากกลุ่มผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และประชาชนทั่วไป
- จัดอบรม 13 หลักสูตร ครอบคลุมทั้งด้านผลิตภัณฑ์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ การตลาด และการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น






- การยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีมูลค่าเพิ่ม
- มุ่งพัฒนา ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป และ ผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร รวม 8 ผลิตภัณฑ์
- ส่งเสริมให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 8 กลุ่ม (รวม 232 คน) สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาด และได้รับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่
- การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงชุมชน
- มหาวิทยาลัยทำงานร่วมกับชุมชนวัดไผ่โรงวัว อำเภอสองพี่น้อง และชุมชนวัดเขาทำเทียม อำเภออู่ทอง เพื่อจัดทำ 2 เส้นทางท่องเที่ยวใหม่
- จัดทำ คลิปวิดีโอแนะนำการท่องเที่ยว, ป้ายจุดเช็กอิน, และ ป้ายแผนผังสถานที่สำคัญ
- มีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 42 คน และมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จริง
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
- ชุมชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
- เกิดเครือข่ายการท่องเที่ยวและวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดสุพรรณบุรี
- ส่งเสริมให้พื้นที่มี “อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม” ที่พร้อมต่อยอดเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์






โครงการที่ 2 “การพัฒนาแหล่งเรียนรู้และบริการเพื่อยกระดับการผลิตสินค้าอาหารปลอดภัยของชุมชนอย่างยั่งยืน”
ดำเนินการโดย ขจรฟาร์ม มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ได้รับงบประมาณสนับสนุน จากการเข้าร่วมเสนอโครงการ และด้วยศักยภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัย และแนวคิดที่มีความเป็นไปได้สูงส่งผลให้มหาวิทยาลัยได้รับงบประมาณสนับสนุน เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนโครงการเป็นเงิน 2,174,300 บาท ภายใต้โครงการ เกษตรสร้างมูลค่า ประจำปีงบประมาณ 2567






🔸 วัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านเกษตรปลอดภัยให้กับเกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุน และสร้างผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่ม
🔹 รูปแบบกิจกรรมหลัก
- การอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ
- อบรมเรื่อง “การปลูกเมลอนในโรงเรือนอัจฉริยะตามแนวทางเกษตรปลอดภัย” ให้กับเกษตรกรจาก 3 จังหวัด (ภูเก็ต, กระบี่, สมุทรปราการ)
- มีผู้เข้าร่วมกว่า 360 คน และได้เรียนรู้ระบบควบคุมความชื้น แสง อุณหภูมิ และการให้น้ำด้วยเทคโนโลยี IoT
- การอบรมการผลิตปุ๋ยและวัสดุปลูกจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
- ถ่ายทอดสูตรปุ๋ยและวัสดุปลูกกว่า 10 สูตรให้เกษตรกรในพื้นที่สุพรรณบุรี
- มีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 120 คน เพื่อเรียนรู้การเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต
- การให้บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพผลผลิตทางการเกษตร
- เกษตรกรได้รับบริการตรวจวิเคราะห์สารตกค้างในผลผลิตกว่า 50 ตัวอย่าง
- สร้างเครือข่ายเกษตรกรนำร่อง 11 ราย เพื่อเข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐาน GAP
- การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์
- ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 12 รายการ เช่น
- ชาแดงเลมอนน้ำผึ้ง
- ปลาส้มคั่วสมุนไพร
- เจลว่านหางจระเข้-รางจืด
- สบู่สมุนไพรว่านรางจืด-กระดูกไก่ดำ
- ร่วมกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ อาทิ กลุ่มสมุนไพรน้ำลูกยอ วิสาหกิจชุมชนคนรักบ้านโพธิ์ ฯลฯ
- ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 12 รายการ เช่น

- การสร้างช่องทางการตลาดชุมชน
- จัดตั้ง “ตลาดชุมชนคนโคกโคเฒ่า” ณ วัดโคกโคเฒ่า จังหวัดสุพรรณบุรี มีร้านค้าชุมชนกว่า 33 ร้าน และผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 617 คน
- พัฒนาแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ Homkhajorn.dusit.ac.th เพื่อขยายการจำหน่ายสู่ระดับประเทศและนานาชาติ
- จัดทำอินโฟกราฟิกและวิดีโอประชาสัมพันธ์สินค้า จำนวนรวมกว่า 48 ชิ้น
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
- เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้ตามมาตรฐาน GAP
- วิสาหกิจชุมชนมีช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์
- เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเกษตรกร นักวิจัย และภาคธุรกิจ




พลังของมหาวิทยาลัยที่อยู่เคียงข้างชุมชน
ด้วยความเชื่อมั่นของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตว่า “การสนับสนุนทางการเงินเพียงอย่างเดียว ไม่อาจสร้างมูลค่าที่แท้จริงให้กับชุมชนได้ เท่ากับการเป็นพี่เลี้ยงที่ร่วมพัฒนาธุรกิจอย่างใกล้ชิด” มหาวิทยาลัยจึงมุ่งเน้นการทำงานเชิงบูรณาการ ที่ไม่ได้จำกัดเพียงการให้เงินทุน แต่ยังให้ “การดูแลและพัฒนาอย่างครบวงจร” ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ — ตั้งแต่การวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชน การสร้างองค์ความรู้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การตลาด ไปจนถึงการสร้างช่องทางจำหน่าย ทั้งนี้โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อให้ชุมชนสามารถเติบโตอย่างแท้จริงด้วยตนเอง
การสนับสนุนผ่านสองโครงการหลักในจังหวัดสุพรรณบุรีจึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของแนวทาง “มหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน (University for Community)” อย่างแท้จริง — มหาวิทยาลัยสวนดุสิตไม่ได้เพียงถ่ายทอดความรู้ แต่ยัง “ลงทุนลงแรงในเชิงโครงสร้าง” เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจชุมชนที่ยั่งยืนและเข้มแข็ง จาก วิทยาเขตสุพรรณบุรี สู่ ศูนย์การศึกษาหัวหิน ลำปาง และนครนายก มหาวิทยาลัยสวนดุสิตยังคงยึดมั่นในพันธกิจ “พัฒนาเพื่อยกระดับชีวิตคนในชุมชน” เพราะสวนดุสิตเชื่อว่า — “การศึกษาที่ดี ต้องเริ่มจากการอยู่เคียงข้างชุมชน”
