ในยุคที่สุขภาพของคนรุ่นใหม่เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิต การเรียนรู้ และความยั่งยืนของสังคม มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของสถาบันการศึกษาในฐานะ “ต้นแบบแห่งสุขภาวะ” ที่ต้องไม่เพียงถ่ายทอดความรู้ทางวิชาการ แต่ยังต้องสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่เกื้อหนุนให้ทุกคนมีสุขภาพกาย ใจ และสังคมที่ดีควบคู่กันไป ภายใต้กรอบ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) เป้าหมายที่ 3 คือ Good Health and Well-Being มหาวิทยาลัยได้พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานสุขภาพทั้งภายในประเทศและระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
1. ความหมายของตัวชี้วัด
ตัวชี้วัด “Current Collaborations with Health Institutions” ในการประเมิน THE Sustainability Impact Ratings มุ่งสะท้อนการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยที่มี “พันธมิตรด้านสุขภาพ” ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ เพื่อร่วมกันพัฒนาสุขภาวะของนักศึกษา บุคลากร และชุมชนรอบข้าง โดยพิจารณาจากสามองค์ประกอบหลักคือ
- การมีอยู่ของความร่วมมือ (Existence of Collaboration)
- การมีหลักฐานการดำเนินงานที่ชัดเจน (Evidence Provided)
- การเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ (Public Evidence)
การมีความร่วมมือในลักษณะนี้แสดงถึงการที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ดำเนินการภายในขอบเขตของตนเองเท่านั้น แต่ยังเปิดพื้นที่ให้เกิดการบูรณาการความรู้และทรัพยากรกับหน่วยงานสุขภาพ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ การป้องกันโรค การสร้างเสริมสุขภาพ และการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพในเชิงระบบ
2. ปรากฏการณ์การขับเคลื่อนของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ในช่วงปี 2567 มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้แสดงบทบาทโดดเด่นในการสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ผ่านกิจกรรมและโครงการที่หลากหลาย เช่น
- โครงการ “รักในวัยทีน + LGBTQ+ เรื่องเพศน่ารู้ไปกับการอนามัยเจริญพันธุ์” จัดโดยคณะพยาบาลศาสตร์ ร่วมกับ สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านเพศศึกษา การยอมรับความหลากหลายทางเพศ และการดูแลสุขภาพทางเพศในกลุ่มเยาวชน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 3.7 และ SDG 5 โดยตรง
- MOU กับ Jetts Fitness และ Arena Hua Hin Sports Club เป็นความร่วมมือในการส่งเสริมสุขภาพกายและบุคลิกภาพของนักศึกษา โดยเปิดพื้นที่ออกกำลังกายที่ทันสมัยและปลอดภัย สร้างวัฒนธรรม “มหาวิทยาลัยสุขภาพดี” ที่เชื่อมโยงระหว่างการศึกษาและสุขภาวะ
- กิจกรรมเสริมสุขภาพเชิงชุมชนและการป้องกันโรค เช่น การให้บริการความรู้ด้านโภชนาการ อนามัยสิ่งแวดล้อม และสุขภาพจิต โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่รอบศูนย์การศึกษาของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ



3. ผลลัพธ์และความสำคัญ
ความร่วมมือเหล่านี้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ในหลายมิติ
- ด้านสุขภาวะของนักศึกษาและบุคลากร: มีการเข้าถึงกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพทั้งกายและใจอย่างต่อเนื่อง เกิดพฤติกรรมการดูแลสุขภาพด้วยตนเองเพิ่มขึ้น
- ด้านการเรียนรู้และทักษะชีวิต: นักศึกษาได้เรียนรู้เชิงปฏิบัติจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ พัฒนาเป็น “ผู้นำสุขภาวะ (Health Ambassadors)” ในรั้วมหาวิทยาลัย
- ด้านความร่วมมือทางสังคม: มหาวิทยาลัยกลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านสุขภาพกับภาครัฐ เอกชน และชุมชน
4. การสะท้อนสู่ความยั่งยืน
การที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิตขับเคลื่อนความร่วมมือกับสถาบันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านจาก “กิจกรรมเพื่อสุขภาพ” สู่ “ระบบสุขภาวะเชิงนโยบายของมหาวิทยาลัย” ที่เป็นรูปธรรม เป็นการสร้างวัฒนธรรมสุขภาพในสถาบันการศึกษา และเป็นตัวอย่างของ University Health Promotion Model ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการประเมินของ THE Sustainability Impact Ratings ในหมวด SDG 3 ได้อย่างสมบูรณ์
สรุป
มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจึงไม่ได้มองสุขภาพเพียงในมิติทางกาย แต่เข้าใจสุขภาพในมิติของ “ชีวิตที่สมดุลและยั่งยืน” ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานสุขภาพที่ครอบคลุมตั้งแต่การให้ความรู้ การป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาวะ ไปจนถึงการสร้างนโยบายเชิงระบบ อันเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ยืนยันถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะ “สถาบันการศึกษาที่เป็นพลังสุขภาวะแห่งสังคมไทย”
ที่มาของข้อมูล
