มหาวิทยาลัยสวนดุสิตมุ่งมั่นในการยกระดับความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) และการเกษตรที่ยั่งยืน (Sustainable Agriculture) ของชุมชนและเกษตรกรในภูมิภาค ภายใต้การดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 2 (SDG 2: Zero Hunger) ซึ่งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้ ทักษะ และเทคโนโลยีทางการเกษตรที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างรายได้อย่างมั่นคง
ในปี พ.ศ. 2567 มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ดำเนิน “โครงการแปลงสาธิตเกษตรปลอดภัยอัจฉริยะ” ซึ่งเป็นกิจกรรมย่อยภายใต้ “โครงการพัฒนาเมืองต้นแบบเกษตรปลอดภัยอัจฉริยะเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในเขตพื้นที่ภาคกลางตามแนวทาง BCG Economy” โครงการนี้เป็นตัวอย่างของการบูรณาการพันธกิจวิจัย บริการวิชาการ และอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย โดยดำเนินการร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนา และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน
วัตถุประสงค์หลักของโครงการ คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและชุมชน ด้วยการพัฒนา “ห่วงโซ่การผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย” ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้แก่
– การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น โรงเรือนอัจฉริยะ ระบบน้ำและการควบคุมสภาพแวดล้อมอัตโนมัติ
– การแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และวัสดุจากของเหลือใช้ทางการเกษตร
– การสร้างช่องทางการตลาดใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
– การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรตามอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อสร้างรายได้เสริมให้ชุมชน
โครงการแปลงสาธิตนี้ใช้พื้นที่ของ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี เป็นฐานในการถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมด้าน “เกษตรปลอดภัยอัจฉริยะ” ให้แก่เกษตรกรและผู้ผลิตอาหารในพื้นที่ โดยมีการจัดอบรม ถ่ายทอดเทคโนโลยี และให้คำปรึกษาเชิงปฏิบัติ เพื่อสร้างต้นแบบการผลิตที่ยั่งยืนและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น
การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในโครงการนี้ก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ในหลายมิติ ได้แก่
1. มิติด้านองค์ความรู้ – เกษตรกรและผู้ผลิตอาหารในพื้นที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการเกษตรปลอดภัยอัจฉริยะ สามารถนำไปปรับใช้ในกระบวนการผลิตจริงได้
2. มิติด้านเศรษฐกิจชุมชน – เกิดการเพิ่มรายได้จากการผลิตและการแปรรูปสินค้าทางการเกษตร รวมถึงการสร้างอาชีพใหม่ที่เชื่อมโยงกับเกษตรท่องเที่ยว
3. มิติด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน – ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสียจากการผลิต และใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างคุ้มค่า
4. มิติด้านสังคมและเครือข่ายความร่วมมือ – สร้างความเข้มแข็งของชุมชนผ่านการทำงานร่วมกันของเกษตรกร มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน
“โครงการแปลงสาธิตเกษตรปลอดภัยอัจฉริยะ” ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เป็นตัวอย่างรูปธรรมของการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านความมั่นคงทางอาหารสู่เกษตรกรในท้องถิ่นอย่างแท้จริง โครงการนี้ไม่เพียงสร้างการเรียนรู้เชิงปฏิบัติเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานรากเข้ากับการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทาง BCG Economy Model และ SDG 2: Zero Hunger ตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในฐานะ “สถาบันอุดมศึกษาต้นแบบแห่งการขับเคลื่อนเกษตรยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหารของประเทศ”
