เส้นทางสู่การลดการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน: กลยุทธ์การจัดการพลังงานของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้แสดงให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์พลังงาน อย่างชัดเจน
การดำเนินงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่เป็นการบูรณาการกลยุทธ์ด้านพลังงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายโลกในการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน

1. การกำหนดนโยบายและการวางกรอบการทำงานที่ชัดเจน (Policy & Framework)

เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดการพลังงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ มหาวิทยาลัยได้กำหนด นโยบายอนุรักษ์พลังงาน ที่เป็นลายลักษณ์อักษร สำหรับอาคารและสิ่งก่อสร้างใหม่หรือที่ได้รับการปรับปรุง นโยบายนี้จึงเป็นกรอบการทำงานสำหรับการจัดการพลังงาน โดยมีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานภาพการใช้พลังงานของมหาวิทยาลัย และที่สำคัญคือ สอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับที่กำหนดให้ อาคารควบคุม ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ นโยบายดังกล่าว มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ของอาคารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมกับบริบทของมหาวิทยาลัย

environmental-quality-management-policy-2565.pdf 

2. แผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมเพื่อลดการใช้พลังงานโดยรวม (Systematic Reduction Plan)

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตมี แผนปฏิบัติการเพื่อลดการใช้พลังงานโดยรวมอย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม โดยพุ่งเป้าไปที่ระบบที่ใช้พลังงานหลัก ได้แก่ ระบบแสงสว่างและระบบปรับอากาศ

2.1 มาตรการลดการใช้พลังงานในระบบแสงสว่าง

มหาวิทยาลัยได้ใช้มาตรการเชิงปฏิบัติการด้วยการ ปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง พักกลางวันเป็นเวลา 1 ชั่วโมง การลดระยะเวลาการเปิดไฟจาก 8 ชั่วโมงเหลือเพียง 7 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อคำนวณจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ T8 จำนวน 1,000 หลอด และจำนวนวันทำงาน 250 วันต่อปี มาตรการนี้ช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าในระบบแสงสว่างลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

2.2 มาตรการลดการใช้พลังงานในระบบปรับอากาศ

เพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงานในระบบปรับอากาศ มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพหลายส่วน

  1. การเพิ่มสมรรถนะเครื่องทำความเย็นแบบ Air-Cooled: โดยการ ลดอุณหภูมิอากาศระบายความร้อน ของเครื่องปรับอากาศ 6 ชุด ขนาด 150 ตัน ซึ่งทำให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดการสิ้นเปลืองพลังงาน
  2. การปรับปรุงสมรรถนะระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน: มีการกำหนด แผนบำรุงรักษาและทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วย ประหยัดพลังงานได้ถึง 5%

3. การตรวจวัดและวิเคราะห์เพื่อระบุจุดสิ้นเปลืองพลังงาน (Measurement and Verification)

เพื่อให้การอนุรักษ์พลังงานเป็นไปตามเป้าหมาย มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการ ตรวจวัดและวิเคราะห์การใช้พลังงาน อย่างเป็นระบบ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง Energy wastage identification การวิเคราะห์นี้ทำให้สามาร5ระบุจุดที่มีการสูญเสียพลังงานสูงสุด โดยมีการรวบรวมข้อมูลสำคัญ เช่น ปริมาณการใช้พลังงาน และ ชั่วโมงการทำงาน ของอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการ วิเคราะห์ศักยภาพการปรับปรุง ของอุปกรณ์หลักแต่ละประเภท

การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างแม่นยำนี้ช่วยให้มหาวิทยาลัยสามารถระบุอุปกรณ์ที่ สิ้นเปลืองพลังงานสูงสุด ได้ อุปกรณ์หลักที่ถูกตรวจสอบเพื่อกำหนดมาตรการอนุรักษ์พลังงาน ได้แก่

  1. เครื่องปรับอากาศแบบรวมศูนย์ (Chillers)
  2. เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน (Split-type AC)
  3. โคมไฟฟ้าแสงสว่าง
  4. ระบบไฟฟ้าอื่นๆ

ด้วยการดำเนินงานที่ครอบคลุมตั้งแต่การกำหนด นโยบายที่เป็นลายลักษณ์อักษร ไปจนถึง
การตรวจวัดและวิเคราะห์ การใช้พลังงานอย่างละเอียด มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจึงไม่เพียงแต่บรรลุเป้าหมายภายในด้านการประหยัดพลังงานเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนเป้าหมายระดับโลกของ SDG 7 ในการส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนด้วย

4. ปฏิวัติการใช้พลังงานสู่เป้าหมายความยั่งยืน

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มีแผนการขับเคลื่อนวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (SDGs) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SDG 7: พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ และ SDG 17: ความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการพัฒนา ด้วยการริเริ่ม โครงการให้บริการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ด้วยมุ่งเน้นที่การ ผลิตเพื่อใช้เอง ซึ่งหมายถึงการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์เซลล์ภายในอาคารทั้งหมด โดยมีเป้าหมายหลักคือ เพื่อลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว 20-25 ปี การริเริ่มนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระ ค่าใช้จ่าย ด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งสำหรับอาคารภาครัฐจำนวน 852 อาคารทั่วประเทศนั้นมีมูลค่าสูงถึง 17.5 พันล้านบาทต่อปี และใช้ พลังงานไฟฟ้า รวม 4,380 GWh แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการเปลี่ยนมาใช้ พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็น พลังงานทดแทน หรือ พลังงานทางเลือก

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้วางแผนการติดตั้ง Solar Rooftop ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ถึง 9 พื้นที่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ถนนนครราชสีมา อาคาร ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน บัณฑิตวิทยาลัย ถนนสุขทัย ศูนย์วิทยาศาสตร์ ถนนสิรินธร และหอพัก วิทยาเขตสุพรรณบุรี ศูนย์การศึกษานครนายก ศูนย์การศึกษาลำปาง ศูนย์การศึกษาหัวหิน และศูนย์การศึกษาตรัง

รูปแบบความร่วมมือที่แข็งแกร่ง (SDG 17)

โครงการนี้ประสบความสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ผ่านบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่าง การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดย กฟน. และ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต มีวัตถุประสงค์ ที่ชัดเจนในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาแนวทางการดำเนิน โครงการพัฒนาออกแบบระบบพลังงานทดแทน และการบริหารจัดการพลังงานทดแทน นอกจากนี้ยังมี
ความร่วมมือในด้านการพัฒนาและบริหารจัดการ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมการศึกษาและอนุรักษ์พลังงาน ด้วยรูปแบบการให้บริการของโครงการเป็นแบบ Service Agreement (SA) ซึ่งเป็นกลไกที่เอื้อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดได้อย่างราบรื่น

โดยโครงการนี้จึงไม่เพียงแต่ส่งเสริมการใช้ พลังงานสะอาด ในวงกว้าง แต่ยังสร้าง ความร่วมมือ ระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการพลังงานที่มี ประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง Green and Clean University ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ม.สวนดุสิต ต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

https://www.dusit.ac.th/home/2023/1107075.html
https://www.mea.or.th/public-relations/corporate-news-activities/announcement/dELsiGXpk
https://www.naewna.com/local/738289