นโยบายความเท่าเทียมด้านโครงสร้างค่าจ้างของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตดำเนินนโยบายด้านการบริหารค่าตอบแทนและโครงสร้างค่าจ้างโดยยึดหลัก “ความเท่าเทียม ความโปร่งใส และความเป็นธรรม” ตามเจตนารมณ์ของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อที่ 8 (SDG 8: Decent Work and Economic Growth) ซึ่งมุ่งให้ทุกคนได้รับงานที่มีคุณค่าและค่าตอบแทนที่เป็นธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ สถานะ หรือตำแหน่งหน้าที่ ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้กำหนดกรอบนโยบายอย่างเป็นทางการไว้ในสองเอกสารหลัก ได้แก่ ข้อบังคับมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2564 และ ประกาศมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างลูกจ้างของมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2567 ซึ่งทั้งสองฉบับเป็นกลไกสำคัญที่รับรองความเท่าเทียมของโครงสร้างค่าจ้างและการจ้างงานในทุกระดับ

เปิดหน้า ข้อบังคับมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2564 ตามลิงค์

https://sdulaw.dusit.ac.th/app/files/regular/832

ตาม ข้อบังคับการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2564 มหาวิทยาลัยได้กำหนดกรอบการบริหารค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานภาครัฐ โดยระบุให้การจ่ายค่าจ้างและค่าตอบแทนแก่บุคลากรทุกประเภทเป็นไปตามหลัก “ความเหมาะสมของตำแหน่ง หน้าที่ และความรับผิดชอบ” โดยไม่จำกัดหรือแยกแยะตามเพศ อายุ หรือสถานะของผู้ปฏิบัติงาน หมวดที่ 6 ของข้อบังคับนี้ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า บุคลากรทุกประเภท—ไม่ว่าจะเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ลูกจ้างประจำ หรือพนักงานชั่วคราว—จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการที่อยู่บนมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ การปรับเพิ่มค่าจ้างประจำปีและการเลื่อนระดับเงินเดือนจะพิจารณาจากผลการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance-based) ซึ่งเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้ทุกเพศมีความก้าวหน้าในอาชีพได้อย่างเท่าเทียม

เปิดหน้า ประกาศมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างลูกจ้างของมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2567 ตามลิงค์

https://sdulaw.dusit.ac.th/app/files/regular/prakaasmhaawithyaalayswndusit-eruueong-kamhndoatraakaajaangluukjaangkongmhaawithyaalay-phs2567

ในระดับของลูกจ้าง มหาวิทยาลัยได้ออก ประกาศมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างลูกจ้างของมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2567 เพื่อกำหนดอัตราค่าจ้างที่เป็นธรรม โปร่งใส และสอดคล้องกับกฎหมายแรงงาน โดยระบุอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามประเภทตำแหน่งไว้อย่างชัดเจน การกำหนดอัตราค่าจ้างในลักษณะนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการยกระดับมาตรฐานค่าจ้างให้เป็นธรรมและเพียงพอต่อการดำรงชีพ

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังดำเนินการให้ลูกจ้างทุกประเภทได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแรงงานและนโยบายสวัสดิการของมหาวิทยาลัย เช่น การประกันสังคม การตรวจสุขภาพประจำปี และการเข้าถึงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ โดยไม่เลือกปฏิบัติระหว่างเพศหรือสถานภาพการจ้างงาน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้และสร้างความมั่นคงให้กับแรงงานในสถาบันอย่างยั่งยืน

เจตนารมณ์ของข้อบังคับและประกาศทั้งสองฉบับนี้ จึงสะท้อนให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยสวนดุสิตมี นโยบายความเท่าเทียมด้านโครงสร้างค่าจ้าง (Pay Scale Equity Policy) ที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยยึดหลักการจ่ายค่าตอบแทนตามสมรรถนะ (Competency-based Pay) และคำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศ (Gender Pay Equality) ทั้งในระดับบุคลากรประจำและลูกจ้าง นโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และแนวทางของ Employment Policy: Pay Scale Equity ที่เน้นการวัดและขจัดช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศ รวมถึงการส่งเสริมระบบค่าตอบแทนที่โปร่งใสและตรวจสอบได้

ด้วยการบังคับใช้ข้อบังคับและประกาศดังกล่าว มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจึงเป็นสถาบันที่ดำเนินการบริหารค่าจ้างด้วยความเท่าเทียม โปร่งใส และยุติธรรม เพื่อให้แรงงานทุกคน—ไม่ว่าจะเพศหญิง เพศชาย หรือเพศทางเลือก—ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับคุณค่าของงาน และมีโอกาสพัฒนาในวิชาชีพอย่างเท่าเทียม สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ “งานที่มีคุณค่าและศักดิ์ศรี” (Decent Work and Human Dignity) อย่างแท้จริง

เอกสารอ้างอิง

  1. ข้อบังคับมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2564
  2. ประกาศมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างลูกจ้างของมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2567