มหาวิทยาลัยสวนดุสิตดำเนินพันธกิจในฐานะ “สถาบันอุดมศึกษาเพื่อความยั่งยืน (University for Sustainable Development)” โดยให้ความสำคัญกับการสร้างองค์ความรู้ การสื่อสารเชิงสาธารณะ และการมีส่วนร่วมกับชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะระบบนิเวศน้ำและทรัพยากรทางทะเล ซึ่งเป็นฐานสำคัญของเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการใช้ทรัพยากรประมงอย่างรู้คุณค่า มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการร่วมกับจังหวัดสุพรรณบุรีในการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้แก่ชุมชนเกี่ยวกับ การทำประมงเกินขนาด (Overfishing) และ การทำประมงผิดกฎหมาย (Illegal, Unreported, and Unregulated Fishing: IUU Fishing)

การดำเนินงานเชิงความร่วมมือเพื่อสร้างความเข้าใจในชุมชน
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2567 มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ได้ให้การสนับสนุนสถานที่จัดการประชุมคณะกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ครั้งที่ 11/2567 ณ ห้องประชุมพวงเงิน อาคารจันทร์เจริญ โดยมี รองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตสุพรรณบุรี เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และผู้แทนชุมชนในพื้นที่

วาระสำคัญของการประชุมคือ “รายงานการปฏิบัติงานการควบคุมการทำการประมงตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2568” ซึ่งจัดทำโดย ชุดเฉพาะกิจตรวจ ควบคุม ป้องกัน และปราบปรามการทำการประมงผิดกฎหมาย การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลแก่ผู้แทนหน่วยงานและชุมชนในจังหวัดเกี่ยวกับมาตรการในการลดการทำประมงเกินขนาดและการใช้เครื่องมือประมงที่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศน้ำ เช่น ลอบพับได้หรือ “ไอ้โง่” และโพงพางปิดปากท่อ ตลอดจนให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการทำประมงที่ไม่ยั่งยืนต่อความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน


ที่มา : https://www4.fisheries.go.th/Local/index.php/main/view_activities/57/203412
การให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกต่อการใช้ทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืน
การประชุมดังกล่าวนับเป็นเวทีสาธารณะที่เปิดโอกาสให้ภาครัฐ มหาวิทยาลัย และชุมชนได้เรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรประมงที่สมดุลและยั่งยืน โดยมหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้มีบทบาทในฐานะ “ตัวกลางทางความรู้ (Knowledge Facilitator)” ในการสื่อสารเชิงวิชาการแก่ชุมชน เพื่อให้เข้าใจถึงหลักการของ การจัดการประมงอย่างยั่งยืน (Sustainable Fisheries Management) และ การอนุรักษ์ระบบนิเวศน้ำ (Aquatic Ecosystem Conservation)
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังได้ร่วมเผยแพร่ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในช่องทางสื่อสารสาธารณะของจังหวัด เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบของการทำประมงผิดกฎหมาย เช่น การลดจำนวนสัตว์น้ำพื้นถิ่น การทำลายที่อยู่อาศัยในแหล่งน้ำ และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Loss) รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและรายงานพฤติกรรมการทำประมงที่ขัดต่อกฎหมาย ผ่านระบบการแจ้งเบาะแสและกิจกรรมของสำนักงานประมงจังหวัด
ผลลัพธ์และผลกระทบของกิจกรรมเผยแพร่ความรู้
การดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือครั้งนี้ ส่งผลให้เกิด ผลลัพธ์เชิงบวก (Positive Outcomes) ต่อทั้งชุมชน สิ่งแวดล้อม และบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ในด้านชุมชน ชาวประมงท้องถิ่นและประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรีได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายประมงและแนวทางการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า (Responsible Water Use) เพิ่มมากขึ้น เกิดจิตสำนึกในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือประมงที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ การรับรู้และความเข้าใจนี้ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของชาวประมงจากการทำประมงเชิงทำลายล้าง (Destructive Fishing Practices) ไปสู่การทำประมงอย่างรับผิดชอบ (Responsible Fisheries)
ในด้านสิ่งแวดล้อม การควบคุมและรื้อถอนเครื่องมือประมงผิดกฎหมายในแหล่งน้ำสาธารณะ เช่น ลำรางและคลองในอำเภอบางปลาม้า ส่งผลให้แหล่งน้ำมีความสมดุลมากขึ้นและสัตว์น้ำพื้นถิ่นสามารถฟื้นตัวได้ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศน้ำ (Aquatic Biodiversity Restoration)
ในด้านสถาบัน มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้รับการยอมรับในฐานะพันธมิตรทางวิชาการที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ระหว่างภาครัฐและชุมชน มหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็น “พื้นที่กลางทางการศึกษา (Educational Platform)” ที่ช่วยสร้างการรับรู้สาธารณะเกี่ยวกับการปกป้องทรัพยากรประมงและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
โดยสรุป การดำเนินงานครั้งนี้ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งการอนุรักษ์ระบบนิเวศน้ำและการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนสังคมสู่การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรับผิดชอบและมีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Citizenship) อย่างแท้จริง
แหล่งที่มา :
