มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (Suan Dusit University: SDU) เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มุ่งมั่นดำเนินการด้าน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบนบก (Life on Land) และ การจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน (sustainable land use) อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในด้านการพัฒนา “ระบบอาหารที่ผลิตอย่างยั่งยืนในมหาวิทยาลัย (sustainably farmed food on campus)” ให้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ การวิจัย และการบริการวิชาการเพื่อสังคม ทั้งนี้มหาวิทยาลัยมี นโยบายการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม พลังงาน และทรัพยากร ที่มุ่งให้มหาวิทยาลัยเป็น ห้องทดลองที่มีชีวิต (Living Laboratory) เพื่อขับเคลื่อนการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ภายใต้กรอบแนวคิด “มหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University)” และ “มหาวิทยาลัยสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Clean & Green University)”
หนึ่งในพื้นที่ดำเนินงานสำคัญของนโยบายนี้คือ หอมขจรฟาร์ม วิทยาเขตสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมและสิ่งแวดล้อมต้นแบบของมหาวิทยาลัย ดำเนินการปลูกพืชผักและผลไม้ปลอดสารพิษหลายชนิด เช่น เมลอน มะเขือเทศเชอร์รี่พันธุ์สวีทเกิร์ล ผักสลัด ฟักทองสปาเกตตี ฟักทองบัตเตอร์นัท กะเพรา และคอสมอส โดยใช้มาตรฐาน เกษตรปลอดภัย (Good Agricultural Practices – GAP) ในทุกกระบวนการผลิต ทั้งในโรงเรือนอัจฉริยะ โรงเรือนกึ่งอัจฉริยะ โรงเรือนสาธิต และแปลงผักสวนครัว การดำเนินงานของฟาร์มดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้าง แบบอย่างของเกษตรยั่งยืน (sustainable agriculture) ที่ส่งเสริม การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity conservation) และ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า (sustainable resource management) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักศึกษา บุคลากร และเกษตรกรในชุมชน



ในปี พ.ศ. 2567 สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ดำเนินโครงการ “พัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการบริหารจัดการและถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรปลอดภัย” นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุธยา อยู่เย็น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา พร้อมด้วยอาจารย์และบุคลากรจำนวน 15 คน เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเรียนรู้กระบวนการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงในด้าน การทำเกษตรยั่งยืน (sustainable agriculture) และ ระบบการผลิตตามมาตรฐาน GAP เช่น การปลูกผักสลัดในแปลง การปลูกขึ้นฉ่ายด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ และการปลูกสตรอว์เบอร์รีในกระถาง ซึ่งข้อมูลและองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาดูงานครั้งนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการหอมขจรฟาร์ม เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตอาหารปลอดภัยในมหาวิทยาลัยให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น


นอกจากนั้น คณะครุศาสตร์ หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาประถมศึกษา ยังได้จัดกิจกรรม “การเรียนรู้การปลูกกล้วยตามแนวทางเกษตรปลอดภัย” เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 โดยมีอาจารย์และนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และ 2 จำนวน 25 คน เข้าร่วมกิจกรรม ณ หอมขจรฟาร์ม กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (experiential learning) ที่บูรณาการ การศึกษาเพื่อความยั่งยืน (education for sustainable development) เข้ากับการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้นักศึกษาเรียนรู้เรื่อง การอนุรักษ์ดินและน้ำ (soil and water conservation) การจัดการพื้นที่เพาะปลูกอย่างรับผิดชอบ และความสำคัญของ ความมั่นคงทางอาหาร (food security)
ในปีเดียวกัน หอมขจรฟาร์มได้ให้การต้อนรับ สำนักกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ในการลงพื้นที่เพื่อสร้างความร่วมมือภายใต้โครงการ “From Farm to Table” โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงผลผลิตพืชตามแนวทางเกษตรปลอดภัยจากหอมขจรฟาร์มและเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ตำบลโคกโคเฒ่า ไปยังผู้บริโภคในมหาวิทยาลัย ทั้งในส่วนของ ครัวสวนดุสิต และ โรงแรมสวนดุสิต เพลส ซึ่งเป็นการพัฒนา ระบบอาหารยั่งยืน (sustainable food system) ที่เชื่อมโยงระหว่างแหล่งผลิตและแหล่งบริโภคภายในมหาวิทยาลัยอย่างครบวงจร


การดำเนินงานเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในการพัฒนา ระบบอาหารและเกษตรกรรมยั่งยืน (sustainable agriculture and food system) ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนข้อที่ 15 (SDG 15: Life on Land) และเป้าหมายย่อย 15.2.2 – Sustainably Farmed Food on Campus โดยมหาวิทยาลัยได้บูรณาการ นโยบายสิ่งแวดล้อม (environmental policy) เข้ากับการปฏิบัติจริงในทุกระดับ ตั้งแต่การบริหารจัดการฟาร์ม การเรียนรู้ของนักศึกษา ไปจนถึงการบริโภคอาหารในโรงอาหารและศูนย์บริการของมหาวิทยาลัย

กิจกรรมทั้งหมดนี้จึงเป็นแบบอย่างของการสร้าง “ห่วงโซ่อาหารที่ยั่งยืน (sustainable food chain)” ภายในสถาบันการศึกษา ที่ส่งเสริมทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่ง การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมในหมู่นักศึกษาและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจึงถือเป็นต้นแบบของการขับเคลื่อนนโยบาย เกษตรปลอดภัยและการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืน (sustainably farmed and managed land) ในระดับอุดมศึกษา ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่ชุมชน และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้อย่างแท้จริง
แหล่งที่มา
