ในปี พ.ศ. 2567 มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (Suan Dusit University: SDU) ร่วมกับ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) – PTT Exploration and Production Public Company Limited (PTTEP) ดำเนิน “โครงการมินิฟาร์ม จังหวัดสุพรรณบุรี (PTTEP Mini Farm Project – Suphan Buri)” เพื่อส่งเสริม การจัดการที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืน (Sustainable Management of Land for Agriculture) ผ่านกระบวนการเรียนรู้เชิงปฏิบัติและการมีส่วนร่วมของชุมชน
โครงการนี้มุ่งเน้นการใช้พื้นที่โรงเรียนในจังหวัดสุพรรณบุรีเป็น “แหล่งเรียนรู้เกษตรยั่งยืนขนาดย่อม (Mini Farm)” โดยมีครูและนักเรียนกว่า 150 คน เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติในหัวข้อ เกษตรปลอดภัยตามมาตรฐาน GAP และการจัดการฟาร์มด้วยระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Greenhouse) ผู้เข้าร่วมได้ฝึกการปลูกพืชปลอดสารพิษ เช่น เมลอน มะเขือเทศเชอร์รี่ และผักสลัด ตลอดจนเรียนรู้การจัดการดิน น้ำ และการใช้ทรัพยากรในที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและรักษาสมดุลของระบบนิเวศ
กิจกรรมดังกล่าวถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่อง การจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน (sustainable land and resource management) ให้แก่โรงเรียนและชุมชน โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสวนดุสิตและทีมวิศวกรสิ่งแวดล้อมจาก ปตท.สผ. ร่วมเป็นวิทยากร ถ่ายทอดทั้งองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การเกษตรและเทคนิคการจัดการที่ดินที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่จริง กิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการบูรณาการ การศึกษา การวิจัย และการบริการวิชาการเพื่อสังคม (academic–community integration)
นอกจากเป็นการถ่ายทอดความรู้แล้ว โครงการยังส่งเสริมให้โรงเรียนที่เข้าร่วมทำหน้าที่เป็น “ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบด้านเกษตรยั่งยืนในชุมชน” โดยครูได้รับการพัฒนาแผนการสอนและสื่อการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อใช้ในห้องเรียนและกิจกรรมเกษตรภายในโรงเรียน ขณะที่นักเรียนได้นำความรู้ไปลงมือปฏิบัติจริงในพื้นที่มินิฟาร์มของโรงเรียน ซึ่งช่วยสร้างความเข้าใจด้านการจัดการที่ดินอย่างรู้คุณค่า และปลูกฝังจิตสำนึกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระยะยาว
โครงการมินิฟาร์มจังหวัดสุพรรณบุรีจึงถือเป็นแบบอย่างของ การเรียนรู้เพื่อการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน (Education for Sustainable Land Use) ที่เชื่อมโยงระหว่างสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น ผ่านการเรียนรู้ที่ปฏิบัติได้จริงและมีผลลัพธ์เป็นรูปธรรม มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการใช้ความร่วมมือภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อส่งเสริม เกษตรเชิงนิเวศ (Agroecology) และ การใช้ทรัพยากรที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient Land Utilization) ซึ่งสนับสนุนทั้งความมั่นคงทางอาหารและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
จากความร่วมมือดังกล่าว มหาวิทยาลัยสวนดุสิตจึงเป็นตัวอย่างของสถาบันอุดมศึกษาที่ใช้ การศึกษาและนวัตกรรม (Education and Innovation) เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับการจัดการที่ดินอย่างยั่งยืนในระดับชุมชน โครงการนี้ไม่เพียงสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้านการจัดการเกษตรที่ยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนและครูในโรงเรียนตระหนักถึงคุณค่าของการดูแลรักษาที่ดิน เพื่อให้มนุษย์และธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลและยั่งยืน