
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี ได้ดำเนิน “โครงการเมืองต้นแบบเกษตรปลอดภัยอัจฉริยะ หอมขจรฟาร์ม” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เพื่อใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยผสานแนวคิด ความหลากหลายทางชีวภาพท้องถิ่น (local biodiversity) เข้ากับการวางแผนและการพัฒนาพื้นที่ในทุกมิติ ทั้งด้านเกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม และการเรียนรู้ของชุมชน โครงการนี้ถือเป็นต้นแบบของ การใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืน (sustainable land use) ที่ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศบนบก (terrestrial ecosystem) และการสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ

โครงการหอมขจรฟาร์มเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสวนดุสิตกับหน่วยงานภาคีในและนอกพื้นที่ อาทิ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.), จังหวัดสุพรรณบุรี, สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.), กรมราชทัณฑ์ และเมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) โดยมีเป้าหมายเพื่อ “ยกระดับรายได้และสร้างผลตอบแทนที่เป็นธรรมให้แก่เกษตรกร” ผ่านการพัฒนาเกษตรปลอดภัยและการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Agriculture) ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่ท้องถิ่น
ในขั้นตอนการวางแผนและพัฒนา โครงการได้ยึดหลัก การออกแบบพื้นที่บนฐานระบบนิเวศ (ecosystem-based planning)โดยให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พันธุ์ไม้พื้นถิ่น (native species) และระบบนิเวศดั้งเดิมของพื้นที่ฟาร์ม มีการคัดเลือกพันธุ์พืชท้องถิ่น เช่น พืชสมุนไพร พืชอาหาร และพันธุ์ไม้เศรษฐกิจในจังหวัดสุพรรณบุรี มาปลูกในพื้นที่เกษตรอัจฉริยะ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความหลากหลายของพืชและสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการรักษาพื้นที่สีเขียวเดิมและแหล่งน้ำธรรมชาติไว้ เพื่อคงสมดุลของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทางนิเวศ

การดำเนินงานของโครงการครอบคลุมห้ามิติสำคัญ ได้แก่
- การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตร ที่สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำ
- การแปรรูปผลผลิตและวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า ช่วยลดของเสียและสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy)
- การสร้างช่องทางการตลาดเกษตรปลอดภัย โดยเชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกรท้องถิ่นเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร (food security)
- การถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านเกษตรปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิต เพื่อสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ (Smart Farmer) ที่มีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม
- การส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ทรัพยากรทางการเกษตรตามอัตลักษณ์พื้นถิ่น เช่น การพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร (agro-tourism routes) และกิจกรรมเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์ไม้พื้นถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่น

นอกจากการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พื้นที่เกษตรอย่างยั่งยืนแล้ว โครงการหอมขจรฟาร์มยังมีบทบาทเป็น “ห้องเรียนธรรมชาติ (Living Learning Space)” สำหรับการเรียนรู้ของนักศึกษา เกษตรกร และชุมชน ผ่านกิจกรรมที่ส่งเสริมความเข้าใจเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การฟื้นฟูดินและน้ำ การปลูกพืชพื้นถิ่น และการดูแลระบบนิเวศในพื้นที่ โครงการนี้ยังเปิดโอกาสให้ชุมชนโดยรอบเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและปลูกฝังแนวคิด การเป็นผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อม (environmental stewardship)

ในกระบวนการพัฒนาพื้นที่ มีการรักษาและเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมทั้งการออกแบบภูมิทัศน์ที่สอดคล้องกับลักษณะทางนิเวศและภูมิประเทศเดิม เพื่อให้โครงการพัฒนาใหม่ไม่รุกล้ำต่อถิ่นที่อยู่อาศัยของพืชและสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ โครงการนี้จึงเป็นแบบอย่างของการออกแบบพื้นที่โดยคำนึงถึง ความหลากหลายทางชีวภาพท้องถิ่น (local biodiversity integration in land development) อย่างแท้จริง

ดังนั้น โครงการ “หอมขจรฟาร์ม มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี” ถือเป็น หลักฐานเชิงประจักษ์โดยตรง (Direct Policy Evidence) ที่แสดงให้เห็นว่า มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้บูรณาการ ความหลากหลายทางชีวภาพท้องถิ่น (local biodiversity) เข้าสู่กระบวนการวางแผนและพัฒนาพื้นที่ของตนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยมุ่งส่งเสริมการใช้ การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ระบบนิเวศบนบกให้ดำรงอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสมดุลและกลมกลืนกับธรรมชาติ
