นโยบายการส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (Suan Dusit University: SDU) ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของสถาบันอุดมศึกษาในการส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการ (academic freedom) ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาความรู้ การวิจัย และการเรียนการสอนอย่างอิสระ เพื่อสร้างความก้าวหน้าทางวิทยาการและประโยชน์ต่อสังคม โดยมหาวิทยาลัยได้ประกาศใช้ “ประกาศมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เรื่อง การใช้เสรีภาพทางวิชาการ พ.ศ. 2565” เพื่อเป็นหลักนโยบายสำคัญในการคุ้มครองและส่งเสริมให้บุคลากรทุกระดับมีเสรีภาพทางการวิจัย (research freedom) และเสรีภาพทางการสอน (teaching freedom) ภายใต้กรอบของกฎหมาย คุณธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ

เปิดหน้าตามลลิงค์ https://sdulaw.dusit.ac.th/wp-content/regular/file/2565-U06C-880.pdf

นโยบายดังกล่าวกำหนดอย่างชัดเจนว่า อาจารย์ นักวิชาการ และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมีสิทธิใช้เสรีภาพทางวิชาการในการเรียน การสอน การวิจัย การบริการวิชาการแก่สังคม รวมถึงการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการต่อสาธารณะ (public expression) ได้อย่างเปิดกว้าง โดยมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศทางวิชาการที่ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเคารพความคิดเห็นที่หลากหลายบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล (good governance) และความซื่อสัตย์ทางวิชาการ (integrity)

ประกาศฉบับนี้ถือเป็น นโยบายหลักด้านเสรีภาพทางวิชาการของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ครอบคลุมทั้งบุคลากรรุ่นอาวุโส (senior academics) และบุคลากรรุ่นใหม่ (junior academics) โดยระบุให้มหาวิทยาลัยมีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้เสรีภาพทางการสอนและการวิจัย เช่น การจัดสรรทรัพยากรทางวิชาการ การสนับสนุนงบประมาณด้านการวิจัยอิสระ (independent research) และการเปิดโอกาสให้บุคลากรสามารถเผยแพร่ผลงานทางวิชาการอย่างอิสระทั้งในระดับชาติและนานาชาติ

ในด้าน เสรีภาพทางการวิจัย (Research Freedom) มหาวิทยาลัยส่งเสริมให้อาจารย์และนักวิจัยทุกระดับสามารถเลือกประเด็นวิจัยที่สนใจได้โดยอิสระ ทั้งในเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติ รวมถึงเปิดโอกาสให้บุคลากรรุ่นใหม่ (junior researchers) ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาท้องถิ่นและประเทศ ขณะเดียวกันยังให้การคุ้มครองอาจารย์รุ่นอาวุโส (senior researchers) ในการดำเนินการวิจัยเชิงลึกตามสาขาความเชี่ยวชาญของตน โดยไม่มีการแทรกแซงจากผู้บริหารหรือองค์กรภายนอก

ในด้าน เสรีภาพทางการสอน (Teaching Freedom) มหาวิทยาลัยได้ย้ำถึงสิทธิของคณาจารย์ในการออกแบบกระบวนการเรียนการสอน การเลือกเนื้อหาวิชา และวิธีการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียน โดยเปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลายและสร้างสรรค์ รวมทั้งสนับสนุนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางวิชาการระหว่างอาจารย์รุ่นใหม่และรุ่นอาวุโส เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานวิชาชีพ

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังได้กำหนดให้การใช้เสรีภาพทางวิชาการต้องอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบทางจริยธรรมและกฎหมาย เพื่อให้เกิดดุลยภาพระหว่าง “เสรีภาพ” และ “ความรับผิดชอบ” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานอย่างมีจรรยาบรรณในสังคมวิชาการ โดยมหาวิทยาลัยได้สร้างกลไกการกำกับดูแล เช่น คณะกรรมการจริยธรรมวิชาชีพ และระบบประเมินคุณภาพทางวิชาการ เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้สอนและผู้วิจัย รวมถึงรักษามาตรฐานความโปร่งใสในการดำเนินงาน

การประกาศนโยบายนี้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2565 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในการส่งเสริมและคุ้มครองเสรีภาพทางวิชาการอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนด้าน ความยั่งยืนทางการศึกษาและการบริหารจัดการที่มีธรรมาภิบาล (sustainable governance and education development) โดยมุ่งสร้างระบบสนับสนุนที่เปิดกว้าง โปร่งใส และเคารพสิทธิเสรีภาพทางวิชาการของทุกคนในองค์กร

กล่าวโดยสรุป นโยบายการใช้เสรีภาพทางวิชาการของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตเป็นการแสดงให้เห็นถึงพันธกิจของสถาบันในการคงไว้ซึ่ง “เสรีภาพทางปัญญา” (freedom of thought) และ “ความรับผิดชอบทางวิชาชีพ” (academic responsibility) อันเป็นรากฐานของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืนและเท่าเทียม มหาวิทยาลัยได้วางระบบสนับสนุนที่เอื้อต่อการเรียน การสอน และการวิจัยอย่างอิสระ โปร่งใส และมีคุณธรรม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนความยั่งยืนตามเจตนารมณ์ของ SDG 16: Peace, Justice and Strong Institutions

เอกสารอ้างอิง

https://sdulaw.dusit.ac.th/wp-content/regular/file/2565-U06C-880.pdf