การขับเคลื่อนธรรมาภิบาลภาครัฐด้วยองค์ความรู้ทางวิชาการและความร่วมมือเชิงนโยบายของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (Suan Dusit University: SDU) ได้แสดงบทบาทสำคัญในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาสังคมผ่านองค์ความรู้ทางวิชาการ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนธรรมาภิบาลภาครัฐและการต่อต้านการทุจริตในทุกระดับของการบริหารราชการแผ่นดิน การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเชื่อมโยง “งานวิจัย” เข้ากับ “การพัฒนานโยบาย” และ “การเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรภาครัฐ” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของ สถาบันที่เข้มแข็ง โปร่งใส และตรวจสอบได้ ตามเป้าหมายของ SDG 16: Peace, Justice and Strong Institutions

A person standing in front of a stage with a microphone

Description automatically generated

ในปี พ.ศ. 2567 โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ร่วมมือกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดทำแผนงานวิจัยเชิงนโยบาย เรื่อง “การขับเคลื่อนธรรมาภิบาลภาคปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยกลไกการจัดการต่อต้านการติดสินบน: กรณีการขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารของเทศบาลนคร” โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนากลไกธรรมาภิบาลภาคปฏิบัติ (Practical Governance Mechanism) ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในระดับท้องถิ่น ผ่านการจัดทำคู่มือแนวทางการจัดการต่อต้านการติดสินบนและการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล ACM Line LIFF สำหรับใช้เป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลการอนุญาตก่อสร้างอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้

A person standing in front of a large screen

Description automatically generated

การประชุมแผนงานวิจัยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 ณ โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชัน โดยมีผู้บริหารจาก วช. นักวิชาการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้กำหนดนโยบายระดับประเทศเข้าร่วมอย่างกว้างขวาง การดำเนินงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงนโยบาย (Policy Utilization) ซึ่งถือเป็นการดำเนินการตามแนวทาง Participation in Government Research อย่างชัดเจน และยังเปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่าง ๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการสร้างธรรมาภิบาลในระบบราชการ

นอกจากการดำเนินงานในเชิงวิจัยแล้ว มหาวิทยาลัยสวนดุสิตยังให้ความสำคัญกับการ เสริมสร้างสมรรถนะผู้กำหนดนโยบายและผู้บริหารภาครัฐ (Capacity Building for Policymakers and Lawmakers) ผ่านการจัดกิจกรรมอบรม สัมมนา และเวทีวิชาการในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย การบริหารราชการ และจริยธรรมในภาครัฐ เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นสำหรับการกำหนดนโยบายสาธารณะอย่างมีธรรมาภิบาล

A group of men in suits standing in a room

Description automatically generated

A group of people in a room

Description automatically generated

ตัวอย่างหนึ่งของกิจกรรมที่สำคัญคือ การสัมมนาเชิงนโยบายร่วมกับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะด้านกฎหมายและกระบวนการบริหารงานบุคคลในระบบราชการให้แก่ผู้บริหารและข้าราชการตำรวจระดับสูง ผ่านหัวข้อการสัมมนา เช่น “การกระทำทางปกครองภายใต้หลักนิติธรรม” และ “ระบบคุณธรรมกับความยุติธรรมในการบริหารงานบุคคล” กิจกรรมนี้เป็นเวทีสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาลในมิติของกฎหมายและจริยธรรมสำหรับผู้ปฏิบัติงานในภาครัฐ ซึ่งเป็นตัวอย่างของการดำเนินงานตามแนวทาง Policy- and Lawmakers Outreach and Education อย่างแท้จริง

A group of people in a meeting

Description automatically generated

ในอีกมิติหนึ่ง มหาวิทยาลัยสวนดุสิตยังได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ คณะอนุกรรมการปรับปรุงหลักเกณฑ์การสมัครและคัดเลือกเครือข่ายพื้นที่สีขาวต้นแบบในการป้องกันและเฝ้าระวังการทุจริต ภายใต้การดำเนินงานของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐในระดับนโยบาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหลักเกณฑ์และระบบประเมินความเสี่ยงด้านการทุจริต (Corruption Risk Management System: CRMS) สำหรับใช้ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ การเข้าร่วมในคณะทำงานดังกล่าวไม่เพียงเป็นการมีส่วนร่วมในการพัฒนานโยบายสาธารณะ แต่ยังเป็นการสร้าง “กลไกเชิงความรู้” ที่ช่วยให้หน่วยงานรัฐสามารถนำไปปรับใช้ในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส

ความร่วมมือทั้งหมดนี้จึงเป็นการบูรณาการระหว่าง งานวิจัยเชิงนโยบาย (Policy-Focused Research) และ การถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้กำหนดนโยบาย (Policy Outreach and Education) อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ทำหน้าที่เป็น “พันธมิตรทางวิชาการของภาครัฐ (Academic Partner for Government)” ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้ด้านกฎหมาย ธรรมาภิบาล และการบริหารภาครัฐ เข้ากับการปฏิบัติจริงในหน่วยงานของรัฐ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของระบบราชการไทยให้มีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

กล่าวโดยสรุป การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในปี พ.ศ. 2567 เป็นตัวอย่างชัดเจนของการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับภาครัฐ ผ่านทั้งกระบวนการวิจัยเชิงนโยบายและการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารและผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ของตัวชี้วัด SDG 16.3.2 และ SDG 16.3.3 เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในการสร้าง “สถาบันที่เข้มแข็ง โปร่งใส และมีความรับผิดชอบต่อสังคม” อันเป็นหัวใจสำคัญของ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 16: Peace, Justice and Strong Institutions

เอกสารอ้างอิง

  1. เอกสารประกอบการประชุมคณะอนุกรรมการปรับปรุงหลักเกณฑ์การสมัครและคัดเลือกเครือข่ายพื้นที่สีขาวต้นแบบในการป้องกันและเฝ้าระวังการทุจริต ครั้งที่ 2/2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) https://slp.dusit.ac.th/ประชุมคณะอนุกรรมการปรั/
  2. ข่าวประชาสัมพันธ์ “วช. จับมือโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขับเคลื่อนธรรมาภิบาลภาคปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยกลไกการจัดการต่อต้านการติดสินบน” (27 มีนาคม 2567) https://slp.dusit.ac.th/new24-thailand-วช-จับมือ-รร-กฎหมายและ/
  3. รายงานแผนงานวิจัย “การขับเคลื่อนธรรมาภิบาลภาคปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยกลไกการจัดการต่อต้านการติดสินบน: กรณีการขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารของเทศบาลนคร” โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) https://slp.dusit.ac.th/โครงการสัมมนาแลกเปลี่ย/