มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (Suan Dusit University: SDU) ได้แสดงบทบาทในฐานะ “พันธมิตรเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” (Partnerships for the Goals) ผ่านการสร้างความร่วมมือเชิงนโยบาย (policy collaboration) กับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ภาคอุตสาหกรรม และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) อย่างเป็นรูปธรรม การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยมุ่งเน้นหลักการสำคัญของ SDG 17 คือ “multi-stakeholder partnership” และ “policy integration” โดยมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ เพื่อพัฒนาแนวนโยบาย (SDG policy development) การถ่ายทอดองค์ความรู้ (knowledge exchange) และการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่น (adaptive management) ร่วมกัน


ในปี พ.ศ. 2567 มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรระหว่างประเทศหลายโครงการที่มีส่วนร่วมโดยตรงในเชิงนโยบาย หนึ่งในกรณีตัวอย่างสำคัญคือความร่วมมือกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF ประเทศไทย) ในแคมเปญ “TRAVEL IVORY FREE – เที่ยวไทยไร้การซื้อขายงาช้าง 2567” ซึ่งเป็นการผนึกกำลังระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่างประเทศ เช่น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการท่องเที่ยว และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) โดยมหาวิทยาลัยได้มีส่วนร่วมออกแบบหลักสูตรและผลิตคู่มือ “บทบาทของมัคคุเทศก์ในการอนุรักษ์และการต่อต้านการค้างาช้างและสัตว์ป่าผิดกฎหมาย” เพื่อพัฒนาองค์ความรู้เชิงพฤติกรรมและแนวทางปฏิบัติสำหรับมัคคุเทศก์ไทยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Policy and Practice) ถือเป็นการมีส่วนร่วมโดยตรง (direct input) ในการพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ SDG 15 (Life on Land) และ SDG 17 (Partnerships for the Goals)


นอกจากนี้ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกระทรวงยุติธรรม จัดโครงการ “เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนด้วยหลักธรรมาภิบาล” เพื่อเผยแพร่นโยบาย “No Gift Policy” และหลักจริยธรรมในภาคราชการ โครงการนี้สะท้อนถึง governance partnership ที่มุ่งยกระดับวัฒนธรรมองค์กรคุณธรรม และสนับสนุนแนวนโยบายด้านการต่อต้านการทุจริตและเสริมสร้างความโปร่งใสในระบบการบริหารภาครัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตาม SDG 16 (Peace, Justice and Strong Institutions) และเชื่อมโยงกับ SDG 17 ในมิติของการขับเคลื่อนนโยบายเชิงธรรมาภิบาล (Good Governance Policy Collaboration)


ในระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรมบรรยายทางวิชาการ “การศึกษาเพื่อพัฒนาสู่ความยั่งยืน” (Education for Sustainable Development – ESD) โดยได้รับเกียรติจาก Professor Wang Huan เลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย เป็นวิทยากรหลัก ถ่ายทอดแนวคิดและแนวปฏิบัติด้านการศึกษาสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเชิงนโยบายด้านการศึกษาระหว่างประเทศ ซึ่งตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ (knowledge partnership) และการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศในประเด็น SDG 4 (Quality Education) และ SDG 17



อีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่สะท้อนความร่วมมือเชิงนโยบายระดับชาติคือ การที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดยรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและกิจการต่างประเทศ ได้ร่วมลงนาม “แถลงการณ์ความมุ่งมั่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” กับเครือข่ายมหาวิทยาลัยยั่งยืนประเทศไทย (SUN Thailand) ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และองค์การสหประชาชาติ (UN Thailand) ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ การลงนามครั้งนี้ถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมของสถาบันอุดมศึกษาไทยในการขับเคลื่อนนโยบายระดับประเทศด้าน SDGs และสะท้อนให้เห็นถึง collaborative governance และ multi-level partnership ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิตมีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของกลไกการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาคการศึกษาไทย



ในมิติของภาคอุตสาหกรรมและชุมชน สถาบันวิจัยและพัฒนา และคณะวิทยาการจัดการ ได้ดำเนินโครงการร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ในการพัฒนา “หลักสูตรระยะสั้นนวัตกรรมอาหารจากมรดกภูมิปัญญาสู่การต่อยอดทางธุรกิจ” และกิจกรรม “เครือข่ายเกษตรปลอดภัยเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นการสร้าง capacity building และนโยบายสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานชุมชน (Sustainable Agriculture and Innovation Partnership Policy) ผ่านกลไกความร่วมมือแบบ triple helix (University–Government–Industry collaboration) เพื่อขับเคลื่อน SDG 2 (Zero Hunger), SDG 9 (Industry, Innovation and Infrastructure) และ SDG 17
จากกิจกรรมทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ดำเนินบทบาทเชิงนโยบายร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน และภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ โดยมีลักษณะของ “existence of input” ที่ชัดเจน พร้อม “evidence provided” ที่ตรวจสอบได้ และ “publicly available” ผ่านช่องทางเว็บไซต์ทางการของมหาวิทยาลัย การดำเนินงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจของมหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันอุดมศึกษาที่ขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ (strategic partnership) เพื่อส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ และเป็นแบบอย่างของ “policy-driven collaboration” ที่สอดคล้องกับแนวทางการประเมินของ Times Higher Education (THE) Sustainability Impact Ratings 2026 อย่างสมบูรณ์
🔗 แหล่งอ้างอิง (References – Public Evidence)
- มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. (2567). “แคมเปญ TRAVEL IVORY FREE เที่ยวไทยไร้การซื้อขายงาช้าง 2567.”
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1219044.html - มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. (2567). “โครงการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนด้วยหลักธรรมาภิบาล.”
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1381252.html - มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. (2567). “การบรรยายทางวิชาการ ‘การศึกษาเพื่อพัฒนาสู่ความยั่งยืน’ โดย Professor Wang Huan.”
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1381163.html - มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. (2567). “พิธีลงนามแถลงการณ์ความมุ่งมั่นเพื่อ SDGs กับเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย.”
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1374360.html - มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. (2567). “กิจกรรมพัฒนากลุ่มเครือข่ายเกษตรปลอดภัยเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รุ่นที่ 2.”
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1215930.html - มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. (2567). “หลักสูตรนวัตกรรมอาหารจากมรดกภูมิปัญญาสู่การต่อยอดทางธุรกิจอย่างยั่งยืน.”
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1230409.html
