“การปลูกพรรณไม้เพื่อการอนุรักษ์น้ำ: กุญแจสู่ SDG 6”

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ดำเนินการจัดภูมิทัศน์ที่เน้นการ ลดการใช้น้ำให้น้อยที่สุด (minimise water usage) โดยการคัดเลือกพรรณไม้ตามหลักการ การปลูกที่ใส่ใจการใช้น้ำ (Water-conscious planting) ซึ่งเลือกใช้ พรรณไม้ทนแล้ง (drought-tolerant plants) เป็นแกนหลักในการจัดภูมิทัศน์ โดยเฉพาะ กลุ่มปาล์ม เพื่อ ลดความต้องการน้ำกลางแจ้ง (reduce outdoor water use) ซึ่งสะท้อนผ่านการมีอยู่ของพรรณไม้หลัก 2 กลุ่ม ได้แก่

1. การปลูกพรรณไม้เพื่อการอนุรักษ์น้ำ

  1. กลุ่มปาล์ม (Palms):
    1. พรรณไม้หลัก: หมาก, มะพร้าว, และ ปาล์ม
    2. คุณสมบัติ: พืชตระกูลนี้ส่วนใหญ่มีความสามารถในการ ทนทานต่อสภาพแห้งแล้ง (drought-tolerant plants) สูง และเป็นกลยุทธ์สำคัญในการจัดภูมิทัศน์เพื่อ ลดการพึ่งพาน้ำ (reduce reliance on the main water supply) การปลูกพืชกลุ่มปาล์มจำนวนมากในพื้นที่ของมหาวิทยาลัย เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงความมุ่งมั่นในการ ประหยัดน้ำ ในระยะยาว
  2. กลุ่มพรรณไม้ทั่วไป (General Species) ที่มีความทนทาน:
    1. พรรณไม้หลัก: ลีลาวดี, มะยงชิด, ทองอุไร, ปีบ, มะขาม, และ มะม่วง
    2. คุณสมบัติ: พรรณไม้เหล่านี้เป็นไม้เขตร้อนที่ ทนแล้งได้ดี และปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศในท้องถิ่นได้ดี การมี ลีลาวดี (ซึ่งเป็นไม้ที่ต้องการน้ำน้อย) และ ทองอุไร (ไม้ดอกทนแล้ง) ในสัดส่วนที่สูง แสดงให้เห็นถึงการเลือกใช้พืชที่ ใช้น้ำน้อย (low-water species) ในการออกแบบภูมิทัศน์อย่างชัดเจน
  3. กลุ่มไผ่:
    1. พรรณไม้หลัก: ชนิดไผ่ไร่และไผ่ผาก
    2. คุณสมบัติ: ไผ่เป็นพรรณไม้ ทนแล้งได้ดี (Drought-tolerant) ชอบอากาศร้อน ไม่ชอบน้ำขัง การใช้ไผ่ในการจัดภูมิทัศน์ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของ พรรณไม้ที่ต้องการน้ำปานกลางถึงต่ำ (low to medium watering requirement) และยังสามารถนำมาใช้เป็นแนวรั้วหรือฉากกำบังได้ดี
C:\ptd\THE Impact Rankings\2026\SDG 6\พรรณไม้ มสด\664307_0.jpg
C:\ptd\THE Impact Rankings\2026\SDG 6\พรรณไม้ มสด\664304_0.jpg

C:\ptd\THE Impact Rankings\2026\SDG 6\พรรณไม้ มสด\664305_0.jpg

2. กลุ่มชนิดพรรณไม้เพื่อการอนุรักษ์น้ำ

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตแสดงความมุ่งมั่นด้าน การปลูกที่ใส่ใจการใช้น้ำ (Water-conscious planting) โดยการจัดภูมิทัศน์ที่ใช้ต้นไม้รวมทั้งสิ้น 413 ต้น แบ่งเป็นกลุ่มหลักดังนี้:

  • พรรณไม้ทั่วไป: จำนวน 289 ต้น
  • กลุ่มปาล์ม: จำนวน 82 ต้น
  • ไผ่ (รวมไผ่รวกและไผ่ผาก): จำนวน 42 ต้น

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังแสดงถึงความมุ่งมั่นในการ ลดการใช้น้ำให้น้อยที่สุด (minimise water usage) จากการปลูกหมาก, ลีลาวดี, มะยงชิด และทองอุไร ซึ่งเป็นพรรณไม้ 4 ลำดับแรกของมหาวิทยาลัยที่ สะท้อนให้เห็นถึงการเลือกใช้พรรณไม้ที่ทนแล้ง (Drought-tolerant plants) ที่สำคัญของมหาวิทยาลัย โดยสัดส่วนของหมาก และลีลาวดี มีสัดส่วนรวมกันกว่า 33.33 % (67 + 57 = 124 ต้น จาก 413 ต้น) จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่มหาวิทยาลัยใช้ พรรณไม้ที่ทนแล้ง (Drought-tolerant plants) เป็นแกนหลักในการจัดภูมิทัศน์ นอกจากนี้มะยงชิด และทองอุไร ยืนยันว่าการเลือกพรรณไม้ของมหาวิทยาลัยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการลดความต้องการน้ำกลางแจ้ง (reduce outdoor water use) และ ลดการพึ่งพาน้ำประปาเป็นหลัก (reduce reliance on the main water supply)

 

ชื่อพรรณไม้

จำนวน (ต้น)

สัดส่วน (%)

คุณสมบัติเด่น

1. หมาก (Betel Nut Palm)

67

18.01

ทนแล้งได้ดีมาก (Drought-tolerant Palm)

2. ลีลาวดี (Frangipani)

57

15.32

ใช้น้ำน้อยมาก (Drought-tolerant Succulent)

3. มะยงชิด (Marian Plum)

16

4.3

ไม้ผลทนแล้ง (Drought-tolerant Fruit Tree)

4. ทองอุไร (Yellow Bell)

15

4.03

ไม้ดอกทนแล้ง (Drought-tolerant Shrub)

การดำเนินการของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในการคัดเลือกและปลูกพรรณไม้ที่เน้น ความทนทานต่อความแห้งแล้ง และ ใช้น้ำน้อย ถือเป็นการแสดงออกถึง การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย SDG 6: Clean Water and Sanitation