มหาวิทยาลัยสวนดุสิต: การฟื้นฟูพื้นที่เดิมและการพัฒนาอาคารอย่างยั่งยืน

Building on Brownfield Sites – Year 2024

ในฐานะมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่ประวัติศาสตร์ “ดุสิต” อันเป็นเขตพระราชฐานเดิมและศูนย์กลางแห่งอารยธรรมการศึกษาไทย มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาเชิงพื้นที่โดยใช้แนวทาง “Brownfield-First Development Model” ซึ่งมุ่งเน้นการ พัฒนา ปรับปรุง และต่อยอดพื้นที่เดิมก่อนการขยายพื้นที่ใหม่ เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่สีเขียว ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และธำรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและมรดกของสถาบันการศึกษา นโยบายนี้ถือเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนเป้าหมาย SDG 11 — Make cities and human settlements inclusive, safe, resilient, and sustainable โดยเฉพาะ 11.4.9 ซึ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่เคยพัฒนาแล้ว (brownfield sites) เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ทางการเรียนรู้และสังคม

นโยบายและหลักการพัฒนา: Brownfield-First Development Model

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้กำหนดหลักการพัฒนาพื้นที่ซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับการกำหนดมาตรฐานการวางแผนและพัฒนาอาคารเพื่อความยั่งยืน (SDG 11.4.8) ในรูปแบบของมาตรฐานกลางในการพัฒนาอาคารและพื้นที่เรียนรู้ใหม่ บนหลัก Brownfield-First Development Model ซึ่งให้ความสำคัญกับการปรับปรุงและต่อยอดพื้นที่เดิมก่อนขยายพื้นที่ใหม่ เพื่อรักษาพื้นที่สีเขียวเดิมของมหาวิทยาลัย ทุกขั้นตอนของการวางแผนและการก่อสร้างอาคารในปี 2567 ได้ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายและมาตรฐานของรัฐอย่างเป็นระบบ โดยมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสผ่านระบบ e-Bidding และเว็บไซต์สาธารณะของมหาวิทยาลัย ได้แก่

  1. ประกาศกระทรวงพลังงาน พ.ศ. 2564 ว่าด้วยการกำหนดค่ามาตรฐานการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเป็นกรอบในการออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน มีการใช้แสงธรรมชาติ การระบายอากาศที่เหมาะสม และวัสดุที่ลดการสูญเสียความร้อน
https://download.asa.or.th/03media/04law/eca/ma64.pdf
  1. กฎกระทรวง ฉบับที่ 69 (พ.ศ. 2564) ออกตาม พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ที่กำหนดข้อบังคับด้านโครงสร้าง ความมั่นคง ช่องทางหนีไฟ การระบายอากาศ และการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารสาธารณะ
https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/A/038/T_0009.PDF
  1. พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่กำหนดให้ทุกสถานศึกษาจัดตั้ง คณะกรรมการ คปอ. ดูแลมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่ก่อสร้างและอาคารเรียน
https://www.tosh.or.th/images/file/2016/osh-act.b.e.2554.pdf

กล่าวโดยสรุป ในแนวทางของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตปี 2567 ให้ทุกโครงการก่อสร้างใหม่หรือปรับปรุงอาคาร ต้องให้ความสำคัญกับการ ใช้พื้นที่เดิมก่อนการขยายพื้นที่ใหม่ โดยอ้างอิงตามมาตรฐานที่กล่าวมาข้างต้นแนวทางดังกล่าวกำหนดให้การพัฒนาแต่ละโครงการต้องมีการวิเคราะห์พื้นที่เดิม (Reuse Assessment) เพื่อประเมินศักยภาพการปรับปรุงอาคารเก่า ก่อนจะพิจารณาก่อสร้างใหม่ เป็นระบบที่สะท้อนความรับผิดชอบเชิงสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจหมุนเวียนของมหาวิทยาลัย

https://planning.dusit.ac.th/main/wp-content/uploads/2024/05/Budget-Plan-2567-20-5-67.pdf

การดำเนินงานในปี 2567 (Brownfield Redevelopment Projects)

1. โครงการปรับปรุงอาคารในพื้นที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ เพื่อยกระดับความปลอดภัย พลังงาน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ดำเนินโครงการปรับปรุงอาคารในพื้นที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะอาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ ซึ่งเป็นอาคารหลักที่ใช้ในการเรียนการสอน วิจัย และให้บริการสาธารณะ

อาคารหลักดังกล่าวใช้งานมานานกว่า 20 ปี โดยยังคงโครงสร้างเดิม แต่เปลี่ยนระบบไฟฟ้า การระบายอากาศ และวัสดุภายในให้ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม

อีกทั้ง กรมโยธาธิการและผังเมืองได้เข้าตรวจสอบ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 เข้าตรวจสอบสภาพอาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ และอาคารที่พักศูนย์วิทยาศาสตร์ ร่วมกับกองอาคารและสถานที่ รวมถึงสำนักงานบริการอาคารวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ และอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย ให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522

https://www.dusit.ac.th/home/2024/1203137.html

การปรับปรุงระบบความปลอดภัยและอัคคีภัย (Safety & Fire System) สำนักงานบริการอาคารวิทยาศาสตร์ได้ปรับปรุงระบบ Sprinkler อัตโนมัติภายในอาคาร รวมถึงการปรับปรุงห้องพักและระบบความปลอดภัยของอาคารที่พักศูนย์วิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการจัดการเหตุฉุกเฉินและฝึกซ้อมหนีไฟ ประจำปี 2567 เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในพื้นที่ปฏิบัติการ อีกทั้งจัดโครงการการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟศูนย์วิทยาศาสตร์

https://www.dusit.ac.th/home/2024/1228197.html
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1256124.html

การติดตามและบริหารงานปรับปรุงโดยคณะกรรมการศูนย์วิทยาศาสตร์ ในปี 2567 ศูนย์วิทยาศาสตร์ได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารหลายครั้ง เพื่อรายงานความก้าวหน้าการปรับปรุงอาคาร การพัฒนาห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ และสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขับเคลื่อนการดำเนินงาน Green & Clean University โดยมีผู้บริหารจากหลายหน่วยงานร่วมดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

https://www.dusit.ac.th/home/2024/1350536.html
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1258459.html
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1315522.html

การตรวจเยี่ยมและพัฒนาระบบจัดการสิ่งแวดล้อมโดยหน่วยงานท้องถิ่น ทางสำนักงานเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เข้าตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการมูลฝอยของศูนย์วิทยาศาสตร์ ศูนย์อาหารดุสิตนฤมล และจุดพักขยะ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมการเข้าตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการมูลฝอยศูนย์วิทยาศาสตร์ โดยรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ด้านสิ่งแวดล้อมดี มุ่งเน้นสร้างต้นแบบการแยกขยะ ต่อยอดให้การแยกขยะระดับเขตสมบูรณ์ครบวงจร แยกขยะต้นทางและขยะเปียกจากองค์กรแบบพุ่งเป้า โดยรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนมีการจัดการขยะด้วยการคัดแยกและนำขยะไปใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดจากแหล่งกำเนิด

https://www.dusit.ac.th/home/2024/1312062.html

2. การปรับปรุงกลุ่มอาคารเรียนระดับปฐมวัยและประถมศึกษา โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ

การปรับปรุงดำเนินภายในพื้นที่เดิมของมหาวิทยาลัย โดยใช้โครงสร้างอาคารเก่าที่ใช้งานมานาน มุ่งใช้ประโยชน์จากพื้นที่เดิมให้เกิดคุณค่าสูงสุด โดยโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตดุสิต ได้ดำเนินการปรับปรุงกลุ่มอาคารเรียนทั้งระดับปฐมวัยและประถมศึกษา ให้มีความทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เปลี่ยนวัสดุตกแต่ง และระบบพื้น–ฝ้า–สีทาอาคารให้เป็นวัสดุที่มี ค่าการระเหยของสารอินทรีย์ต่ำและ ปลอดสารพิษตามเงื่อนไข TOR ที่ประกาศในระบบ e-Bidding ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมภายในสถานศึกษา โดยเฉพาะสำหรับนักเรียนระดับปฐมวัยซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางทางสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีการปรับระบบอาคารและสิ่งแวดล้อม อาทิ เช่น

  • ปรับปรุงระบบแสงสว่างภายในห้องเรียนให้มีค่าความสว่างตามมาตรฐาน กรมโยธาธิการและผังเมือง
  • ปรับเปลี่ยนวัสดุพื้นและผนังเป็นวัสดุซับเสียง ลดเสียงสะท้อนในห้องเรียนและห้องกิจกรรม
  • ปรับระบบระบายอากาศและช่องแสงธรรมชาติ เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนอากาศ ลดความชื้น และลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
  • ปรับปรุงระบบดับเพลิง ระบบล่อฟ้า และทางหนีไฟ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงควบคุมอาคารและข้อกำหนดความปลอดภัยในสถานศึกษา

นอกจากอาคารเรียน โรงเรียนยังได้พัฒนาพื้นที่โดยรอบ เช่น สนามเด็กเล่น ลานกิจกรรม และแนวต้นไม้รอบอาคาร ให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และการพักผ่อนของเด็ก

https://supply.dusit.ac.th/supply_eprocurement/standard_price67/stdp_renovate_buildings_Sathid.pdf
https://la-orutis.dusit.ac.th/2941.html

3. การปรับปรุงอาคารครุศาสตร์ อาคารพลศึกษา อาคารเยาวภา (ศิลปวัฒนธรรม) และอาคาร One World Library (OWL)

มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ดำเนินโครงการปรับปรุงกลุ่มอาคารเดิมในเขตมหาวิทยาลัยดุสิต ภายใต้นโยบาย “Reuse before Expand” ที่มุ่งเน้นการใช้พื้นที่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ขยายพื้นที่ก่อสร้างใหม่ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ภูมิทัศน์เมืองเก่า และบริบททางประวัติศาสตร์ของพื้นที่ดุสิต ให้คงอยู่ในฐานะ “พื้นที่มรดกการศึกษาไทย” ภาพรวมเป็นการปรับระบบโครงสร้างภายใน เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ พื้นและฝ้า ให้เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติด้านการอนุรักษ์พลังงาน รักษ์สิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัย อีกทั้งมีการติดตั้งระบบ Smart Learning Space และ Digital Teaching System เพื่อยกระดับอาคารเรียนเก่าสู่รูปแบบการเรียนรู้ยุคใหม่โดยไม่ต้องสร้างอาคารใหม่เพิ่มเติม โดยในการดำเนินงานมีอธิการบดี ทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัย และผู้บริหารส่วนงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

https://www.dusit.ac.th/home/2024/1331427.html
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1252533.html

4. ศูนย์การศึกษาสุพรรณบุรี: การพัฒนาพื้นที่เรียนรู้เดิมและภูมิทัศน์สีเขียว

โครงการ “ปรับปรุงภูมิทัศน์และพื้นที่โดยรอบศูนย์การเรียนรู้ระบบใหม่ SDU Library” โดยมหาวิทยาลัยใช้พื้นที่อาคารและลานฝึกปฏิบัติเดิมของวิทยาเขตสุพรรณบุรี เป็นฐานในการพัฒนาเพิ่มพื้นที่สีเขียว และติดตั้งระบบระบายน้ำใหม่ โดยไม่ขยายพื้นที่ออกนอกเขตเดิม ถือเป็นตัวอย่างของการฟื้นฟู “พื้นที่ที่เคยถูกทิ้งร้าง” ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

https://www.dusit.ac.th/home/2024/1227933.html
https://www.dusit.ac.th/home/2024/1236090.html

สรุปภาพรวมการดำเนินงานฟื้นฟูพื้นที่เดิมและการพัฒนาอาคารอย่างยั่งยืน

การดำเนินงานภายใต้แนวทาง Brownfield-First Development Model ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิตในปี 2567 สะท้อนถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งใน “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ที่เชื่อมโยงระหว่างมิติ สิ่งแวดล้อม – สังคม – วัฒนธรรม ได้อย่างครบถ้วน ทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติจริง แทนที่จะขยายพื้นที่ก่อสร้างใหม่ มหาวิทยาลัยเลือกแนวทาง ฟื้นฟูอาคารและพื้นที่ที่มีอยู่เดิม (Adaptive Reuse and Refurbishment) โดยรักษาโครงสร้างทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่ดุสิตอันเป็นมรดกทางการศึกษาไทย ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงระบบพลังงาน แสงสว่าง อากาศ และวัสดุก่อสร้างให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านอาคารเขียวและความปลอดภัย ผลลัพธ์คือการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่าง “อดีตที่ทรงคุณค่า” กับ “อนาคตที่ยั่งยืน”

โครงการต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์, การยกระดับโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ, การปรับปรุงอาคารครุศาสตร์ – พลศึกษา – เยาวภา – One World Library, รวมถึง การพัฒนา SDU Library และภูมิทัศน์สีเขียวที่ศูนย์สุพรรณบุรี ต่างดำเนินการบนพื้นที่เดิมทั้งหมด ไม่เพียงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดการใช้ทรัพยากร แต่ยังยกระดับประสิทธิภาพการเรียนรู้ การใช้พลังงาน และคุณภาพชีวิตของผู้เรียนและบุคลากรไปพร้อมกัน แนวทางดังกล่าวจึงถือเป็นแบบอย่างของการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างรับผิดชอบ (Responsible Campus Regeneration) ที่ใช้วิทยาศาสตร์และการจัดการสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน ต่อยอดด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและวัฒนธรรมไทย เพื่อสร้างมหาวิทยาลัยที่ “เติบโตโดยไม่รุกล้ำ” และ “พัฒนาโดยไม่ทำลาย” — สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนข้อ 11 อย่างแท้จริง

“Suan Dusit University — A Living Campus of Heritage and Sustainability.”