มหาวิทยาลัยสวนดุสิตไม่เพียงแต่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่รายงานการปรับปรุงและกำหนด นโยบายพลังงานสะอาด และ เทคโนโลยีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (energy-efficient technology) โดยได้จัดทำ รายงานการจัดการพลังงาน ประจำปี 2567 ตาม กฎกระทรวงกำหนด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการส่งข้อมูลการใช้พลังงานและผลการดำเนินงานด้าน อนุรักษ์พลังงาน เข้าสู่ระบบของกระทรวงพลังงานโดยมีแผนอนุรักษ์พลังงาน ระยะ 3 ปีข้างหน้า (2569 – 2571) คาดว่าจะมีผลประหยัดรวมด้านไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องปีละ 57,668.18 kWh/ปี ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน การดำเนินงานด้าน การจัดการพลังงาน ของมหาวิทยาลัยครอบคลุม 8 ขั้นตอนอย่างครบถ้วน: ตั้งแต่การจัดตั้ง คณะทำงานด้านการจัดการพลังงาน การกำหนด นโยบายอนุรักษ์พลังงาน การประเมินศักยภาพการใช้พลังงาน ไปจนถึงการติดตามและทบทวนการดำเนินงาน
1. ผลการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมด้านเทคโนโลยีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้กำหนด เป้าหมายและแผนอนุรักษ์พลังงาน ประจำปี 2567 โดยเน้นมาตรการด้านไฟฟ้าที่มีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนถึงการนำ energy-efficient technology (หรือการปรับปรุงประสิทธิภาพ) มาใช้อย่างจริงจัง:
- มาตรการเพิ่มสมรรถนะของเครื่องทำความเย็นแบบ Air-Cooled โดยลดอุณหภูมิอากาศระบายความร้อน: เป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้จริงถึง 181,220.3 kWh/ปี คิดเป็นมูลค่าประหยัด 876,055.87 บาท/ปี (โดยไม่มีการลงทุน) มาตรการนี้แสดงให้เห็นถึงการจัดการระบบปรับอากาศที่เป็น เทคโนโลยีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สามารถประหยัดพลังงานได้อย่างมาก
- มาตรการปรับปรุงสมรรถนะระบบปรับอากาศ: เช่น การล้างและบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน (Split Type) จำนวน 70 ชุด ซึ่งส่งผลให้เกิดผลประหยัดพลังงาน 30,068.18 kWh/ปี.
- มาตรการปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน: เพื่อลดการใช้พลังงานในระบบ แสงสว่าง โดยการปิดไฟในช่วงพักกลางวัน ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้จริง 27,600.00 kWh/ปี คิดเป็นมูลค่า 133,424.00 บาท/ปี.
3. การสร้างความตระหนักและขับเคลื่อนสู่ “Low-Carbon University”
นอกจากมาตรการเชิงเทคนิคแล้ว มหาวิทยาลัยยังดำเนินการเผยแพร่ความรู้และปลูกฝังจิตสำนึก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการ พัฒนานโยบาย ด้านบุคลากรและการมีส่วนร่วม:
- การฝึกอบรมและกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีการจัดหลักสูตรที่เชื่อมโยงโดยตรงกับเป้าหมายระดับโลก เช่น การอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ “SDU: Actions toward the Sustainable Development Goals and Transitions to a Low-Carbon University” ซึ่งมีบุคลากรเข้าร่วม 277 คน.
- มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการ ลดก๊าซเรือนกระจก ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต (เป้าหมายผู้เข้าร่วม 1,000 คน) และกิจกรรม Earth Hour 2024 ซึ่งแสดงถึงความพยายามในการสร้าง นโยบาย และวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุน clean energy และการลดคาร์บอน.
- การเผยแพร่ นโยบายอนุรักษ์พลังงาน และแผนการดำเนินงานผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์และไลน์กลุ่ม เพื่อให้เกิดความเข้าใจและ การมีส่วนร่วม จากพนักงานทุกคน.
มหาวิทยาลัยสวนดุสิตมีบทบาทที่ชัดเจนในการ Inform and support governments ในการ Policy development (การพัฒนานโยบาย) สำหรับ clean energy technology และ energy-efficient technology ผ่านการดำเนินงานตาม กฎกระทรวง และการส่งมอบ รายงานการจัดการพลังงาน ที่แสดงข้อมูลเชิงลึกและผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้. การมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบหลัก เช่น ระบบปรับอากาศ (ซึ่งเป็นสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าที่สูงที่สุดคือ 71.56% ในปี 2567) และการขับเคลื่อนองค์กรให้เป็น Low-Carbon University ถือเป็นแบบอย่างที่สามารถสนับสนุนและเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการกำหนด นโยบายพลังงาน ที่ยั่งยืนในระดับประเทศได้เป็นอย่างดี